แมนฯ ซิตี้เพิ่งจะเตะเอฟเอ คัพ กับแมนฯยูฯไปหมาดๆเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สภาพร่างกายเป็นรอง ลิเวอร์พูล แน่นอนเพราะทีม "หงส์แดง" เตะแมตช์ล่าสุดไปตั้งแต่วันศุกร์แล้ว โรแบร์โต้ มันชินี่ ถึงกับออกมาบ่นผ่านสื่อว่าไม่ได้รับความยุติธรรม สำหรับศักยภาพทีมแน่นอนว่าช่วงนี้ แมนฯซิตี้ แข็งแกร่งกว่าเพราะมีนักเตะให้เลือกใช้งานมากมาย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ขาด ซัวเรซ ที่ติดโทษแบนไป อย่างไรก็ตามพอไม่มีซัวเรซ นักเตะลิเวอร์พูลกลับเล่นกันเป็นทีมมากขึ้นซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่เหมาะในการ รับมือกับแมนฯซิตี้ที่ดีที่สุดก็ว่าได้ ในส่วนของผู้ตัดสินใจเกมนี้อย่าง ลี เมสัน ก็ไม่มีประวัติเป่าเข้าข้างทีมใด เกมน่าจะออกมาแบบแฟร์ๆ แต่ยังมองว่า แมนฯซิตี้ มีโอกาสดีกว่าในการได้เป็นเจ้าถิ่นก่อน เพราะรายการนี้เตะกันแบบเหย้าเยือน หากไม่เสมอกัน แมนฯซิตี้ ยังมีโอกาสลุ้นถึงชนะได้มากกว่าเล็กน้อย
เลือกต่อ แมนฯซิตี้ 0.5 ราคาน้ำที่ -0.950 ลงทุน 1,000 ชนะรับ 2,000 รวมทุน
12BET แจกโบนัส !!สมัครสมาชิกวันนี้เลยสิคะ!!
รหัสรับโบนัส 12TH11100 ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท
สมัครกับเราคลิ๊กที่แบนเนอร์นี้ เหมือนสมัครกับเว็บโดยตรง.
คาร์ลิ่งเดือด!เรือจัดกุนโป้ง,หงส์ส่งแคร์โรลล์ส่อง
ศึกระดับยักษ์ชนยักษ์ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเตรียมจัดทัพใหญ่ โดย เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" น่าจะลงตัวจริงเป็นแกนหลักนำแผงหน้าขุดสกอร์ผู้มาเยือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่จะส่ง แอนดี้ แคร์โรลล์ลงตัวจริงยืนศูนย์หน้าตัวเป้าหวังซัดพาเก็บชัย ในศึกฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คืนวันพุธที่ 11 ม.ค. ศกนี้
ปรีวิว ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
วันพุธที่ 11 มกราคม 2555แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - ลิเวอร์พูลสนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เรือใบสีฟ้า ของกุนซืออิตาเลี่ยน โรแบร์โต้ มันชินี่ หวังแก้ตัวให้ได้ด้วยการเข้าชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ หลังเพิ่งตกรอบสาม เอฟเอ คัพ ที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่า ด้วยน้ำมือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บุกหั่น 3-2 เมื่อวันอาทิตย์
ในการเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม รับ ลิเวอร์พูล สำหรับศึก คาร์ลิ่ง คัพ รอบตัดเชือกนัดแรก วันพุธนี้ แมนฯ ซิตี้ หวังให้กัปตันทีม แว็งซ็องต์ ก็องปานี พร้อมลุย หลังจากที่ยื่นอุทธรณ์โทษใบแดงที่ได้รับในเกมกับ ปีศาจแดง ไปแล้ว
กองหลังชาวเบลเจี้ยน จะต้องรับโทษแบนถึงสี่นัด จากการโดนไล่ออกในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ ซึ่งทางสโมสร ได้ยืนอุทธรณ์ไปแล้ว และรอลุ้นผลที่จะมีการประกาศก่อนเกมกับ หงส์แดง
ทั้งนี้ หากอุทธรณ์ไม่ผ่าน เป็นที่คาดกันว่า สเตฟาน ซาวิช น่าจับคู่ดูแลแนวรับร่วมกับ โจลีออน เลสค็อตต์ จากการที่ โคโล ตูเร่ ไปช่วยทีมชาติไอเวอรี่โคสต์ใน แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ พร้อมกับน้องชาย ยาย่า ตูเร่
ขณะเดียวกัน มันชินี่ ยังต้องประเมินสภาพร่างกายของเพลย์เมกเกอร์ ดาบิด ซิลบา (ข้อเท้า) และกองหน้า มาริโอ บาโลเตลลี่ (ข้อเท้า) และ เอดิน เชโก้ (หัวเข่า) โดยในรายของ เชโก้ คาดว่า น่าฟิตพอจับคู่กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ได้ ส่วน แกเร็ธ แบร์รี่ พ้นโทษแบนพร้อมลุยตั้งแต่นาทีแรก เช่นเดียวกับนายทวาร โจ ฮาร์ท ที่ได้พักมา
ลิเวอร์พูล :
ด้าน หงส์แดง จากการทำงานของกุนซือ เคนนี่ ดัลกลิช ได้พักมาเต็มๆ นับตั้งแต่ที่เอาชนะ โอลด์แฮม 5-1 ใน เอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
ลิเวอร์พูล ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเดิม นอกเหนือไปจาก ลูคัส เลวา (หัวเข่า) ที่พักยาว แต่ยังคงต้องปราศจาก หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ที่ชดใช้โทษแบนนัดที่สามจากทั้งหมดแปดนัดในข้อหาเหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า ของ แมนฯ ยูไนเต็ด
แอนดี้ แคร์โรลล์ ดาวยิงค่าตัว 35 ล้านปอนด์ เตรียมได้รับโอกาสให้ออกสตาร์ท หลังบอกลาความฝืดในเกมกับ โอลด์แฮม เช่นเดียวกับกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่น่าได้เป็นตัวจริงเคียงข้าง ชาร์ลี อดัม รวมถึง เจย์ สเพียริ่ง ที่คงได้เล่นเกมเยือนที่ต้องการความแน่นหนารวมถถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
เคร็ก เบลลามี่ เตรียมได้ลากเลื้อยทางกราบซ้ายในการเจอทีมเก่า ส่วน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกทีมชาติอังกฤษ ส่อแววหลีกทาง หลังจากที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไปเมื่อสุดสัปดาห์
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, สเตฟาน ซาวิช, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - แกเร็ธ แบร์รี่, ไนเจล เด ยองก์ - ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", อดัม จอห์นสัน - เอดิน เชโก้
ผู้จัดการทีม : โรแบร์โต้ มันชินี่
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดน แอ๊กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - ชาร์ลี อดัม, เจย์ สเพียริ่ง - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เคร็ก เบลลามี่ - แอนดี้ แคร์โรลล์
ผู้จัดการทีม : เคนนี่ ดัลกลิช
เรือเฝ้าบ้านดุ! แต่สถิติบอลถ้วยหงส์ข่ม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีสถิติในบ้านน่าพอใจทีเดียวในการรับมือ ลิเวอร์พูล โดย 3 ฤดูกาลหลังสุด เรือใบสีฟ้า ไม่แพ้ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อ หงส์แดง เลย แถม 2 ซีซั่นหลัง ยังกด 3-0 ทั้งสองนัดด้วย
ฤดูกาล 2010-11 คาร์ลอส เตเวซ ยิงคนเดียว 2 ประตูจาก 1 จุดโทษ บวกกับ แกเร็ธ แบร์รี่ อีกลูก ช่วยให้ เรือใบสีฟ้า ยิงขาด 3-0 และซีซั่นนี้ เซร์คิโอ อเกวโร่, ยาย่า ตูเร่ และจุดโทษของ เจมส์ มิลเนอร์ ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ขย้ำอีก 3-0 ซึ่งเป็นเกมที่เพิ่งพบกันไปเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมานี่เอง
ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองทีมพบกันในบอลถ้วย ต้องย้อนกลับไปซีซั่น 2002-03 หงส์แดง บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 ที่ เมน โร้ด ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ซึ่งก่อนหน้านั้นอีก 3 ครั้งทั้งใน เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายชนะทั้งหมด
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
วันพุธที่ 11 มกราคม 2555แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - ลิเวอร์พูลสนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
แมนฯ ซิตี้ :
เรือใบสีฟ้า ของกุนซืออิตาเลี่ยน โรแบร์โต้ มันชินี่ หวังแก้ตัวให้ได้ด้วยการเข้าชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ หลังเพิ่งตกรอบสาม เอฟเอ คัพ ที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่า ด้วยน้ำมือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บุกหั่น 3-2 เมื่อวันอาทิตย์
ในการเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม รับ ลิเวอร์พูล สำหรับศึก คาร์ลิ่ง คัพ รอบตัดเชือกนัดแรก วันพุธนี้ แมนฯ ซิตี้ หวังให้กัปตันทีม แว็งซ็องต์ ก็องปานี พร้อมลุย หลังจากที่ยื่นอุทธรณ์โทษใบแดงที่ได้รับในเกมกับ ปีศาจแดง ไปแล้ว
กองหลังชาวเบลเจี้ยน จะต้องรับโทษแบนถึงสี่นัด จากการโดนไล่ออกในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ ซึ่งทางสโมสร ได้ยืนอุทธรณ์ไปแล้ว และรอลุ้นผลที่จะมีการประกาศก่อนเกมกับ หงส์แดง
ทั้งนี้ หากอุทธรณ์ไม่ผ่าน เป็นที่คาดกันว่า สเตฟาน ซาวิช น่าจับคู่ดูแลแนวรับร่วมกับ โจลีออน เลสค็อตต์ จากการที่ โคโล ตูเร่ ไปช่วยทีมชาติไอเวอรี่โคสต์ใน แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ พร้อมกับน้องชาย ยาย่า ตูเร่
ขณะเดียวกัน มันชินี่ ยังต้องประเมินสภาพร่างกายของเพลย์เมกเกอร์ ดาบิด ซิลบา (ข้อเท้า) และกองหน้า มาริโอ บาโลเตลลี่ (ข้อเท้า) และ เอดิน เชโก้ (หัวเข่า) โดยในรายของ เชโก้ คาดว่า น่าฟิตพอจับคู่กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ได้ ส่วน แกเร็ธ แบร์รี่ พ้นโทษแบนพร้อมลุยตั้งแต่นาทีแรก เช่นเดียวกับนายทวาร โจ ฮาร์ท ที่ได้พักมา
ลิเวอร์พูล :
ด้าน หงส์แดง จากการทำงานของกุนซือ เคนนี่ ดัลกลิช ได้พักมาเต็มๆ นับตั้งแต่ที่เอาชนะ โอลด์แฮม 5-1 ใน เอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
ลิเวอร์พูล ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเดิม นอกเหนือไปจาก ลูคัส เลวา (หัวเข่า) ที่พักยาว แต่ยังคงต้องปราศจาก หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ที่ชดใช้โทษแบนนัดที่สามจากทั้งหมดแปดนัดในข้อหาเหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า ของ แมนฯ ยูไนเต็ด
แอนดี้ แคร์โรลล์ ดาวยิงค่าตัว 35 ล้านปอนด์ เตรียมได้รับโอกาสให้ออกสตาร์ท หลังบอกลาความฝืดในเกมกับ โอลด์แฮม เช่นเดียวกับกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่น่าได้เป็นตัวจริงเคียงข้าง ชาร์ลี อดัม รวมถึง เจย์ สเพียริ่ง ที่คงได้เล่นเกมเยือนที่ต้องการความแน่นหนารวมถถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
เคร็ก เบลลามี่ เตรียมได้ลากเลื้อยทางกราบซ้ายในการเจอทีมเก่า ส่วน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกทีมชาติอังกฤษ ส่อแววหลีกทาง หลังจากที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไปเมื่อสุดสัปดาห์
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, สเตฟาน ซาวิช, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - แกเร็ธ แบร์รี่, ไนเจล เด ยองก์ - ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", อดัม จอห์นสัน - เอดิน เชโก้
ผู้จัดการทีม : โรแบร์โต้ มันชินี่
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดน แอ๊กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - ชาร์ลี อดัม, เจย์ สเพียริ่ง - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เคร็ก เบลลามี่ - แอนดี้ แคร์โรลล์
ผู้จัดการทีม : เคนนี่ ดัลกลิช
เรือเฝ้าบ้านดุ! แต่สถิติบอลถ้วยหงส์ข่ม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีสถิติในบ้านน่าพอใจทีเดียวในการรับมือ ลิเวอร์พูล โดย 3 ฤดูกาลหลังสุด เรือใบสีฟ้า ไม่แพ้ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อ หงส์แดง เลย แถม 2 ซีซั่นหลัง ยังกด 3-0 ทั้งสองนัดด้วย
ฤดูกาล 2010-11 คาร์ลอส เตเวซ ยิงคนเดียว 2 ประตูจาก 1 จุดโทษ บวกกับ แกเร็ธ แบร์รี่ อีกลูก ช่วยให้ เรือใบสีฟ้า ยิงขาด 3-0 และซีซั่นนี้ เซร์คิโอ อเกวโร่, ยาย่า ตูเร่ และจุดโทษของ เจมส์ มิลเนอร์ ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ขย้ำอีก 3-0 ซึ่งเป็นเกมที่เพิ่งพบกันไปเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมานี่เอง
ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองทีมพบกันในบอลถ้วย ต้องย้อนกลับไปซีซั่น 2002-03 หงส์แดง บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 ที่ เมน โร้ด ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ซึ่งก่อนหน้านั้นอีก 3 ครั้งทั้งใน เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายชนะทั้งหมด
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !