ด่วน! รีบเดิมพันก่อนราคาน้ำเปลี่ยนแปลง
อึ้ง!แฟนหงส์ขับรถไล่เย้ยนาสรี่หลังเกมจมเรือใบ
โลกนี้มันเป็นอะไร ไปแล้ว...แฟนบอล ลิเวอร์พูล กลุ่มหนึ่ง ทำตัวเป็นแกะดำ ขับรถไล่ตาม ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์ แมนฯ ซิตี้ หลังจบเกม คาร์ลิ่ง คัพ รอบตัดเชือก นัดแรก ที่ต้นสังกัดของแข้งเลือดเฟร้นช์ พ่าย "หงส์แดง" 0-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมเหน็บแนมเพลย์เมกเกอร์ "เรือใบสีฟ้า" อย่างสนุกปาก แถมยังอัดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาลงบน "ยูทูบ" ด้วย แต่ไม่รอด โดนคนอื่นๆ กระหน่ำด่าอย่างหนักหน่วง
ซามีร์ นาสรี่ เพลย์เมกเกอร์คนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเจอประสบการณ์สุดระทึก หลังกำลังขับรถปอร์เช่สุดรักอยู่ดีๆ แต่ถูกแฟนบอล ลิเวอร์พูล กลุ่มหนึ่งขับยานพาหนะตามล่า พร้อมกระแนะกระแหนเจ้าตัวอย่างไม่ลดละ โดยหลักฐานคือคลิปวิดีโอที่กองเชียร์ "หงส์แดง" กลุ่มดังกล่าวได้บันทึกเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้
เหตุการณ์เสี่ยงภัยครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจบเกม คาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ "เรือใบสีฟ้า" ปราชัยคารัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ให้ "หงส์แดง" 0-1 เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยในคลิปดังกล่าว "เดอะ ค็อป" กลุ่มหนึ่งบังเอิญจ๊ะเอ๋ นาสรี่ ที่กำลังขับรถอยู่ ทำให้คนที่นั่งข้างๆ บอกให้คนขับเหยียบคันเร่ง เพื่อตาม ปอร์เช่ ของมิดฟิลด์เลือดน้ำหอมให้ทัน
เมื่อตามมาทันแล้ว แฟนบอล ลิเวอร์พูล กลุ่มนั้นก็เริ่มพูดเยาะเย้ย นาสรี่ ในเรื่องที่เขาเก็บข้าวของย้ายออกจากทีมเก่าอย่าง อาร์เซน่อล มาร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยตอนแรกพวกเขาบอกให้แข้ง "เรือใบสีฟ้า" เลื่อนกระจกลงมา ก่อนที่จะตะโกนผลการแข่งที่ทีมรักเพิ่งคว้าชัยมาหยกๆ ใส่มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสทันที
หลังจากนั้น แฟน "หงส์แดง" คนหนึ่งก็เหน็บแนม นาสรี่ ว่า "ชอบไหมล่ะ? ไอ้คนไม่แยแส อาร์เซน่อล เอ๊ย" ก่อนที่อีกรายจะเข้ามาสมทบว่า "แกไม่ควรย้ายออกจาก อาร์เซน่อล เลยนะ ถ้าแกอยู่กับ อาร์เซน่อล แกยังมีโอกาสชนะ แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่าเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ อีก" ขณะที่ นาสรี่ ตอบโต้แฟนกลุ่มดังกล่าวไปว่า "จ่าฝูงลีกโว้ย!" ก่อนที่จะบึ่งรถออกไป ในขณะที่ผู้รุกรานรายหนึ่งตะโกนไล่หลังไปว่า "แกมันไม่ได้วิเศษวิโสหรอก"
ทั้งนี้ "เดอะ ค็อป" แกะดำกลุ่มดังกล่าว ได้เอาคลิปที่เยาะเย้ยแข้งวัย 24 ปี มาโพสต์ลงบน "ยูทูบ" เว็บไซต์ดูวิดีโอยอดนิยม พร้อมตั้งชื่อว่า "ซามีร์ นาสรี่ ถูกแฟนๆ ลิเวอร์พูล ทำลายย่อยยับ หลังจบเกมของ แมนฯ ซิตี้" แต่พวกเขาก็ถูกแฟนๆ หลายคนตำหนิอย่างหนักว่า ช่างไร้มนุษยธรรมสิ้นดี โดยผู้ชมคลิปรายหนึ่งเขียนว่า "นี่มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับ แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล แต่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับว่า ในบางครั้งคนเราสามารถชั่วร้ายได้มากแค่ไหน และดูถูกคนอื่นได้มากเพียงใดด้วย"
ซามีร์ นาสรี่ เพลย์เมกเกอร์คนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเจอประสบการณ์สุดระทึก หลังกำลังขับรถปอร์เช่สุดรักอยู่ดีๆ แต่ถูกแฟนบอล ลิเวอร์พูล กลุ่มหนึ่งขับยานพาหนะตามล่า พร้อมกระแนะกระแหนเจ้าตัวอย่างไม่ลดละ โดยหลักฐานคือคลิปวิดีโอที่กองเชียร์ "หงส์แดง" กลุ่มดังกล่าวได้บันทึกเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้
เหตุการณ์เสี่ยงภัยครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจบเกม คาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ "เรือใบสีฟ้า" ปราชัยคารัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ให้ "หงส์แดง" 0-1 เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยในคลิปดังกล่าว "เดอะ ค็อป" กลุ่มหนึ่งบังเอิญจ๊ะเอ๋ นาสรี่ ที่กำลังขับรถอยู่ ทำให้คนที่นั่งข้างๆ บอกให้คนขับเหยียบคันเร่ง เพื่อตาม ปอร์เช่ ของมิดฟิลด์เลือดน้ำหอมให้ทัน
เมื่อตามมาทันแล้ว แฟนบอล ลิเวอร์พูล กลุ่มนั้นก็เริ่มพูดเยาะเย้ย นาสรี่ ในเรื่องที่เขาเก็บข้าวของย้ายออกจากทีมเก่าอย่าง อาร์เซน่อล มาร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยตอนแรกพวกเขาบอกให้แข้ง "เรือใบสีฟ้า" เลื่อนกระจกลงมา ก่อนที่จะตะโกนผลการแข่งที่ทีมรักเพิ่งคว้าชัยมาหยกๆ ใส่มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสทันที
หลังจากนั้น แฟน "หงส์แดง" คนหนึ่งก็เหน็บแนม นาสรี่ ว่า "ชอบไหมล่ะ? ไอ้คนไม่แยแส อาร์เซน่อล เอ๊ย" ก่อนที่อีกรายจะเข้ามาสมทบว่า "แกไม่ควรย้ายออกจาก อาร์เซน่อล เลยนะ ถ้าแกอยู่กับ อาร์เซน่อล แกยังมีโอกาสชนะ แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่าเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ อีก" ขณะที่ นาสรี่ ตอบโต้แฟนกลุ่มดังกล่าวไปว่า "จ่าฝูงลีกโว้ย!" ก่อนที่จะบึ่งรถออกไป ในขณะที่ผู้รุกรานรายหนึ่งตะโกนไล่หลังไปว่า "แกมันไม่ได้วิเศษวิโสหรอก"
ทั้งนี้ "เดอะ ค็อป" แกะดำกลุ่มดังกล่าว ได้เอาคลิปที่เยาะเย้ยแข้งวัย 24 ปี มาโพสต์ลงบน "ยูทูบ" เว็บไซต์ดูวิดีโอยอดนิยม พร้อมตั้งชื่อว่า "ซามีร์ นาสรี่ ถูกแฟนๆ ลิเวอร์พูล ทำลายย่อยยับ หลังจบเกมของ แมนฯ ซิตี้" แต่พวกเขาก็ถูกแฟนๆ หลายคนตำหนิอย่างหนักว่า ช่างไร้มนุษยธรรมสิ้นดี โดยผู้ชมคลิปรายหนึ่งเขียนว่า "นี่มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับ แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล แต่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับว่า ในบางครั้งคนเราสามารถชั่วร้ายได้มากแค่ไหน และดูถูกคนอื่นได้มากเพียงใดด้วย"
เดอะค็อปเฮ!สตีวี่จีภักดีสโมสรต่อสัญญายาว
สาวก "เดอะ ค็อป" เฮสนั่นลั่นทุ่ง หลัง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางพลังเทอร์โบ เปิดใจ ตอนนี้ได้ต่อสัญญาระยะยาวกับ ลิเวอร์พูล แล้ว รับเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้อยู่กับสโมสรอันเป็นที่รักไปอีกนาน ชี้ถือเป็นของขวัญที่แสนวิเศษ หลังเพิ่งซัดประตูชัยดับซ่า แมนฯ ซิตี้ 1-0 เกม คาร์ลิ่ง คัพ รอบตัดเชือก นัดแรก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยัน ตอนนี้ตนสลัดน้ำหมึกต่อสัญญาระยะยาวค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งการต่อสัญญาในครั้งนี้ทำให้ "สตีวี่จี" จะอยู่เล่นกับทีมไปจนกระทั่งแขวนสตั๊ด
มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ซึ่งลงสนามครั้งแรกให้ ลิเวอร์พูล เมื่ออายุ 18 ปี ในเดือนพฤศจิกายน 1998 โดยลงสนามไปแล้ว 566 แมตช์ และซัดตาข่าย 144 ประตู รวมทั้งจุดโทษในเกมชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
เจอร์ราร์ด ซึ่งติดทีมชาติ 89 แมตช์ และยิงไปแล้ว 19 ประตู ตกลงต่อสัญญาใหม่แล้ว แต่กระนั้นนักเตะและสโมสรไม่ได้เปิดเผยว่า สัญญามีระยะเวลายาวนานแค่ไหน กล่าวว่า "ผมมีความสุขมากๆ มันเป็นวันที่สุดแสนภาคภูมิใจสำหรับตัวผม และครอบครัวของผม มันเป็นการกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา (วันพุธ) เมื่อเราได้ผลการแข่งขันที่เราคาดหวังเอาไว้ การต่อสัญญาใหม่เกิดขึ้นอีก 1 วัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมจริงๆ"
ทั้งนี้ ดาวเตะวัย 31 ปี อยู่ค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล เพียงทีมเดียว และเป็นผู้ที่นำต้นสังกัดกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่บนพื้นแผ่นดินยุโรป เมื่อสามารถพา "หงส์แดง" ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2005 ด้วยการพลิกนรกกลับมาชนะจุดโทษ เอซี มิลาน
นอกจากนี้ เจอร์ราร์ด ยังนำทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย, คาร์ลิ่ง คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า คัพ 1 สมัย แต่สิ่งที่เจ้าตัวยังรู้สึกค้างคาใจจนทุกวันนี้ก็คือ ยังไม่สามารถนำต้นสังกัดผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขาได้เลย
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยัน ตอนนี้ตนสลัดน้ำหมึกต่อสัญญาระยะยาวค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งการต่อสัญญาในครั้งนี้ทำให้ "สตีวี่จี" จะอยู่เล่นกับทีมไปจนกระทั่งแขวนสตั๊ด
มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ซึ่งลงสนามครั้งแรกให้ ลิเวอร์พูล เมื่ออายุ 18 ปี ในเดือนพฤศจิกายน 1998 โดยลงสนามไปแล้ว 566 แมตช์ และซัดตาข่าย 144 ประตู รวมทั้งจุดโทษในเกมชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
เจอร์ราร์ด ซึ่งติดทีมชาติ 89 แมตช์ และยิงไปแล้ว 19 ประตู ตกลงต่อสัญญาใหม่แล้ว แต่กระนั้นนักเตะและสโมสรไม่ได้เปิดเผยว่า สัญญามีระยะเวลายาวนานแค่ไหน กล่าวว่า "ผมมีความสุขมากๆ มันเป็นวันที่สุดแสนภาคภูมิใจสำหรับตัวผม และครอบครัวของผม มันเป็นการกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา (วันพุธ) เมื่อเราได้ผลการแข่งขันที่เราคาดหวังเอาไว้ การต่อสัญญาใหม่เกิดขึ้นอีก 1 วัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมจริงๆ"
ทั้งนี้ ดาวเตะวัย 31 ปี อยู่ค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล เพียงทีมเดียว และเป็นผู้ที่นำต้นสังกัดกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่บนพื้นแผ่นดินยุโรป เมื่อสามารถพา "หงส์แดง" ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2005 ด้วยการพลิกนรกกลับมาชนะจุดโทษ เอซี มิลาน
นอกจากนี้ เจอร์ราร์ด ยังนำทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย, คาร์ลิ่ง คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า คัพ 1 สมัย แต่สิ่งที่เจ้าตัวยังรู้สึกค้างคาใจจนทุกวันนี้ก็คือ ยังไม่สามารถนำต้นสังกัดผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขาได้เลย
คิงเคนนี่ปลื้มสตีวี่จีต่อสัญญาใหม่หงส์แดง
เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ ลิเวอร์พูล หน้าบานเป็นจานสังคโลก หลังได้ทราบข่าว สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์พลังเทอร์โบ ต่อสัญญาระยะยาวกับทีมเรียบร้อยแล้ว ด้าน "สตีวี่จี" สุดปลื้ม หลังทราบข่าวต้นสังกัดเตรียมตำแหน่งทูตสโมสรให้หลังแขวนเกือก
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ของ ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับ ข่าวที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีม ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับ "หงส์แดง" ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับยอดทีมแห่งถิ่น แอนฟิลด์
ตำนานหมายเลข 7 ของ "เดอะ เร้ดส์" ให้ความเห็นว่า "สำหรับเรา สำหรับ สตีเว่น และสำหรับทุกๆ คนที่เกี่ยวพันกับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ถือเป็นข่าวที่ดีเยี่ยมจริงๆ เราดีใจกับเขา และตั้งตาคอยที่จะเห็นเขากลับมาฟิตเต็มร้อย และทำงานหนักร่วมกับเรา เขาเป็นลูกจ้างที่แสนซื่อสัตย์สำหรับสโมสรแห่งนี้"
นอกจากนี้มีรายงานว่า ลิเวอร์พูล ได้เตรียมแผนที่จะมอบบทบาททูตประจำสโมสรให้กับ "สตีวี่จี" เมื่อถึงเวลาที่นักเตะตัดสินใจแขวนสตั๊ด เฉกเช่นเดียวกับ "คิงเคนนี่" ที่เคยมีโอกาสได้รับตำแหน่งนี้ ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกให้เข้ามากุมบังเหียน "หงส์แดง" ในเวลาต่อมา
มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ เผยว่า "เรามีทีมที่สุดยอด เรามีเจ้าของที่เหมาะสม และทีมได้รับการหนุนหลังเป็นอย่างดี ดังนั้นผมมั่นใจว่า เราจะได้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในอนาคต มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ สำหรับผม ที่สโมสรได้ยื่นข้อเสนอให้กับผมได้มีโอกาสอยู่กับทีม เมื่อถึงเวลาที่ผมแขวนสตั๊ด"
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องนี้คงจะเกิดขึ้นอีกหลายปี เพราะผมอยากที่จะลงเล่นต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ ผมรู้ตัวเองเมื่อถึงเวลาที่ผมต้องแขวนสตั๊ด และจากนั้นหวังว่า ผมจะได้เกี่ยวพันกับสโมสรต่อไป รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับนักเตะดาวรุ่งที่จะก้าวขึ้นมาในอนาคต" เจอร์ราร์ด ระบุ
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ของ ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับ ข่าวที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีม ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับ "หงส์แดง" ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับยอดทีมแห่งถิ่น แอนฟิลด์
ตำนานหมายเลข 7 ของ "เดอะ เร้ดส์" ให้ความเห็นว่า "สำหรับเรา สำหรับ สตีเว่น และสำหรับทุกๆ คนที่เกี่ยวพันกับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ถือเป็นข่าวที่ดีเยี่ยมจริงๆ เราดีใจกับเขา และตั้งตาคอยที่จะเห็นเขากลับมาฟิตเต็มร้อย และทำงานหนักร่วมกับเรา เขาเป็นลูกจ้างที่แสนซื่อสัตย์สำหรับสโมสรแห่งนี้"
นอกจากนี้มีรายงานว่า ลิเวอร์พูล ได้เตรียมแผนที่จะมอบบทบาททูตประจำสโมสรให้กับ "สตีวี่จี" เมื่อถึงเวลาที่นักเตะตัดสินใจแขวนสตั๊ด เฉกเช่นเดียวกับ "คิงเคนนี่" ที่เคยมีโอกาสได้รับตำแหน่งนี้ ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกให้เข้ามากุมบังเหียน "หงส์แดง" ในเวลาต่อมา
มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ เผยว่า "เรามีทีมที่สุดยอด เรามีเจ้าของที่เหมาะสม และทีมได้รับการหนุนหลังเป็นอย่างดี ดังนั้นผมมั่นใจว่า เราจะได้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในอนาคต มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ สำหรับผม ที่สโมสรได้ยื่นข้อเสนอให้กับผมได้มีโอกาสอยู่กับทีม เมื่อถึงเวลาที่ผมแขวนสตั๊ด"
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องนี้คงจะเกิดขึ้นอีกหลายปี เพราะผมอยากที่จะลงเล่นต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ ผมรู้ตัวเองเมื่อถึงเวลาที่ผมต้องแขวนสตั๊ด และจากนั้นหวังว่า ผมจะได้เกี่ยวพันกับสโมสรต่อไป รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับนักเตะดาวรุ่งที่จะก้าวขึ้นมาในอนาคต" เจอร์ราร์ด ระบุ
ดัลกลิชโต้ข่าว!หงส์เลหลังขายแคร์โรลล์สุดมั่ว
เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกโรงโต้ข่าว แอนดี้ แคร์โรลล์ กองหน้าปืนฝืด จะถูกขายในเดือนมกราคมนี้ไม่จริงแต่อย่างใด ชี้เป็นเพียงเรื่องนี้นักข่าวกุขึ้นมาเอง พร้อมยันจะขอปกป้องลูกทีมจนถึงที่สุด
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาปฏิเสธเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า ข่าวลือที่ว่า แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอกของทีม จะถูกขายออกไปในช่วงเดือนมกราคมนี้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ก่อน หน้านี้มีรายงานออกมาว่า แคร์โรลล์ เจ้าของค่าตัว 35 ล้านปอนด์ (1,750 ล้านบาท) จะถูกขายกลับไปให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัด ในราคาที่ลดแหลก แต่ "สาลิกาดง" ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว และเอเยนต์ของดาวเตะทีมชาติอังกฤษก็ยืนยันว่า พวกเขาไม่เคยมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วย
ล่าสุด ดัลกลิช ออกมาปฏิเสธข่าวเกี่ยวกับ แคร์โรลล์ ซึ่งเพิ่งยิงได้เพียง 4 ประตูในฤดูกาลนี้ ว่า "ผมกังวลเรื่องที่ผู้คนกุขึ้นมา คุณไม่มีข้อมูลอะไรเลย (เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น) ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายกับสิ่งที่อยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ผมปกป้องและจะปกป้องลูกทีมตลอดไป" ดัลกลิช กล่าว
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาปฏิเสธเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า ข่าวลือที่ว่า แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอกของทีม จะถูกขายออกไปในช่วงเดือนมกราคมนี้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ก่อน หน้านี้มีรายงานออกมาว่า แคร์โรลล์ เจ้าของค่าตัว 35 ล้านปอนด์ (1,750 ล้านบาท) จะถูกขายกลับไปให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัด ในราคาที่ลดแหลก แต่ "สาลิกาดง" ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว และเอเยนต์ของดาวเตะทีมชาติอังกฤษก็ยืนยันว่า พวกเขาไม่เคยมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วย
ล่าสุด ดัลกลิช ออกมาปฏิเสธข่าวเกี่ยวกับ แคร์โรลล์ ซึ่งเพิ่งยิงได้เพียง 4 ประตูในฤดูกาลนี้ ว่า "ผมกังวลเรื่องที่ผู้คนกุขึ้นมา คุณไม่มีข้อมูลอะไรเลย (เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น) ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายกับสิ่งที่อยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ผมปกป้องและจะปกป้องลูกทีมตลอดไป" ดัลกลิช กล่าว
ซันแฉเจทีทำพิรุธเหตุจำนองบ้านซ้ำหน4รอบ8ปี
"เดอะ ซัน" ปูด จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี มีพิรุธจากการจำนองบ้านตนเองถึง 4 ครั้งในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะกระจ่างว่าเจ้าตัวต้องการหาเงินมาสมทบทุนเพื่อสร้างคฤหาสน์ในฝัน สำหรับตนเองและครอบครัว
"เดอะ ซัน" แท็บลอยด์จอมแฉแห่งเกาะอังกฤษ รายงานข่าวไม่ชอบมาพากลว่า จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีมของ เชลซี ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก ทำตัวน่าสงสัย เมื่อทำเรื่องจำนองบ้านในย่าน เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ เป็นรอบที่ 4 แล้ว ทำให้จำนวนเงินกู้ของเจ้าตัวในเวลานี้ พุ่งขึ้นไปแตะที่ 4.65 ล้านปอนด์ (ราว 232.5 ล้านบาท) เรียบร้อยแล้ว
สำนักงานที่ดินของ อังกฤษ ออกมาเผยว่า เทอร์รี่ ทุ่มเงินร่วม 2.25 ล้านปอนด์ (ราว 112.5 ล้านบาท) เพื่อซื้อคฤหาสน์ในหมู่บ้านอ็อกซ์ช็อตต์ เมืองเซอร์เรย์ ตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2003 ก่อนที่จะทำเรื่องจำนองใหม่ 3 ครั้งก่อนครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ทำให้จำนวนเงินกู้ยืมในเวลานี้สูงกว่าตอนที่ซื้อมาถึง 2 เท่าตัวแล้ว
นอก จากนี้ ดาวเตะวัย 31 ปี ยังทำเรื่องจำนองใหม่ ที่ดินของ ซู พูล แม่ยาย ก่อนที่จะซื้อบ้านให้เธอด้วยราคา 1.7 ล้านปอนด์ (ราว 85 ล้านบาท) เมื่อปี 2007 แต่ก็จัดการจำนองใหม่บ้านดังกล่าว วันเดียวกับที่ เทอร์รี่ จำนองใหม่บ้านของตนเองเป็นครั้งที่ 4 โดยแหล่งข่าวให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "มันเป็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดมากสำหรับคนๆหนึ่งที่มีรายได้มหาศาลมากกว่า ครึ่งล้านปอนด์ต่อเดือน"
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าแผนการของ เทอร์รี่ จะกระจ่างขึ้นแล้ว เมื่อ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีมชาติอังกฤษ ต้องการรวบรวมเงินสำหรับการสร้างคฤหาสน์หรู 10 ห้องนอนบนที่ดินของแม่ยายของตน หลังจากเริ่มดำเนินการสร้างตั้งแต่เมื่อราว 6 เดือนก่อน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. ปีนี้
"เดอะ ซัน" แท็บลอยด์จอมแฉแห่งเกาะอังกฤษ รายงานข่าวไม่ชอบมาพากลว่า จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีมของ เชลซี ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก ทำตัวน่าสงสัย เมื่อทำเรื่องจำนองบ้านในย่าน เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ เป็นรอบที่ 4 แล้ว ทำให้จำนวนเงินกู้ของเจ้าตัวในเวลานี้ พุ่งขึ้นไปแตะที่ 4.65 ล้านปอนด์ (ราว 232.5 ล้านบาท) เรียบร้อยแล้ว
สำนักงานที่ดินของ อังกฤษ ออกมาเผยว่า เทอร์รี่ ทุ่มเงินร่วม 2.25 ล้านปอนด์ (ราว 112.5 ล้านบาท) เพื่อซื้อคฤหาสน์ในหมู่บ้านอ็อกซ์ช็อตต์ เมืองเซอร์เรย์ ตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2003 ก่อนที่จะทำเรื่องจำนองใหม่ 3 ครั้งก่อนครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ทำให้จำนวนเงินกู้ยืมในเวลานี้สูงกว่าตอนที่ซื้อมาถึง 2 เท่าตัวแล้ว
นอก จากนี้ ดาวเตะวัย 31 ปี ยังทำเรื่องจำนองใหม่ ที่ดินของ ซู พูล แม่ยาย ก่อนที่จะซื้อบ้านให้เธอด้วยราคา 1.7 ล้านปอนด์ (ราว 85 ล้านบาท) เมื่อปี 2007 แต่ก็จัดการจำนองใหม่บ้านดังกล่าว วันเดียวกับที่ เทอร์รี่ จำนองใหม่บ้านของตนเองเป็นครั้งที่ 4 โดยแหล่งข่าวให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "มันเป็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดมากสำหรับคนๆหนึ่งที่มีรายได้มหาศาลมากกว่า ครึ่งล้านปอนด์ต่อเดือน"
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าแผนการของ เทอร์รี่ จะกระจ่างขึ้นแล้ว เมื่อ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีมชาติอังกฤษ ต้องการรวบรวมเงินสำหรับการสร้างคฤหาสน์หรู 10 ห้องนอนบนที่ดินของแม่ยายของตน หลังจากเริ่มดำเนินการสร้างตั้งแต่เมื่อราว 6 เดือนก่อน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. ปีนี้
มันโช่ชี้จีเจควรโดนแดงมากกว่าก็องปานี
โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชี้ เกล็น จอห์นสัน กองหลัง ลิเวอร์พูล สมควรโดนแดงจากจังหวะเสียบ โจลีออน เลสค็อตต์ ปราการหลัง "เรือใบสีฟ้า" ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มากกว่าที่ แว็งซองต์ ก็องปานี ดาวเตะ "เรือใบสีฟ้า" ถูกไล่ออกในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ ชี้เป็นการเข้าสกัดที่เลวร้าย พร้อมยันไม่สนใจว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม "หงส์แดง" พูดอะไรก็ตาม
โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความไม่พอใจ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวา ลิเวอร์พูล ที่พุ่งเข้าเสียบ โจลีออน เลสค็อตต์ ปราการหลัง "เรือใบสีฟ้า" อย่างอันตราย ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่พลพรรค "หงส์แดง" บุกมาเฉือนชนะ 1-0 เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม โดยเชื่อว่าสมควรเป็นใบแดงมากกว่าจังหวะที่ แว็งซองต์ ก็องปานี กองหลังเบลเยียม เข้าเสียบ หลุยส์ นานี่ ปีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่พ่ายต่อ "ปีศาจแดง" 2-3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเสียอีก
มันชินี่ กล่าวหลังความพ่ายแพ้ว่า "มันแย่ยิ่งกว่า การเข้าปะทะนี้มันเลวร้ายที่สุด (สตีเว่น) เจอร์ราร์ด เข้ามาหาผมและบอกว่าผมพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของ จอห์นสัน มันเป็นเรื่องการเข้าสกัด การเข้าสกัดนี้แย่กว่าของ วินนี่ ทุกคนสามารถเห็นได้"
ขณะ ที่ เจอร์ราร์ด ได้พูดถึงการแสดงความเห็นของ มันชินี่ ที่กล่าวหาว่า เวย์น รูนี่ย์ กองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด กดดันผู้ตัดสินให้แจกใบแดงกับ ก็องปานี ว่า "มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับผม เนื่องจากเขามุ่งประเด็นไปยัง เวย์น รูนี่ย์ แต่ตอนนี้เขามุ่งประเด็นมายังหนึ่งในพวกเรา"
ส่วน มันชินี่ โต้กลับห้องเครื่องวัย 31 ปี จากประเด็นที่พูดเกี่ยวกับตนทันควันว่า "สตีเว่น เจอร์ราร์ด สามารถพูดได้ตามที่เขาต้องการ ผมก็พูดในสิ่งที่ผมคิด นั่นคือสิ่งที่ผมทำเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งมันไม่ได้มีสาระสำคัญเลยว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือนักเตะคนอื่นพูดว่าอย่างไร"
เมื่อ ถูกถามถึง สเตฟาน ซาวิช กองหลังทีมชาติมอนเตเนโกร ที่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแทน ก็องปานี แล้วทำพลาดเสียจุดโทษเป็นเหตุให้ทีมต้องพ่ายไปในท้ายที่สุด มันชินี่ กล่าวว่า "ซาวิช จำเป็นต้องได้รับประสบการณ์ มันเป็นเรื่องปกติ เขายังหนุ่ม เมื่อต้องมาพบกับกองหน้าอย่าง แคร์โรลล์ เขาคงต้องพบความยากลำบากอยู่บ้าง ทว่าในครึ่งหลังมันก็เริ่มดีขึ้น"
ทั้งนี้จากความ ปราชัยต้องถือเป็นครั้งแรกที่ ซิตี้ พ่ายในบ้านติดต่อกัน 2 นัดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2008 ซึ่ง มันชินี่ ทราบดีทีมของตนต้องประสบปัญหา เพราะทีมต้องขาดนักเตะหลักหลายรายในช่วงเวลานี้ โดยระบุว่า "เราก็แค่ต้องพบกับ 2 เกมที่ยากลำบาก ผมรู้เรื่องนี้มาก่อน เมื่อผมพูดว่าเดือนมกราคมจะต้องเป็นเดือนที่สำคัญสำหรับเรา เนื่องจากเราต้องเสียนักเตะคนสำคัญไป 3 หรือ 4 ราย"
โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความไม่พอใจ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวา ลิเวอร์พูล ที่พุ่งเข้าเสียบ โจลีออน เลสค็อตต์ ปราการหลัง "เรือใบสีฟ้า" อย่างอันตราย ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่พลพรรค "หงส์แดง" บุกมาเฉือนชนะ 1-0 เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม โดยเชื่อว่าสมควรเป็นใบแดงมากกว่าจังหวะที่ แว็งซองต์ ก็องปานี กองหลังเบลเยียม เข้าเสียบ หลุยส์ นานี่ ปีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่พ่ายต่อ "ปีศาจแดง" 2-3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเสียอีก
มันชินี่ กล่าวหลังความพ่ายแพ้ว่า "มันแย่ยิ่งกว่า การเข้าปะทะนี้มันเลวร้ายที่สุด (สตีเว่น) เจอร์ราร์ด เข้ามาหาผมและบอกว่าผมพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของ จอห์นสัน มันเป็นเรื่องการเข้าสกัด การเข้าสกัดนี้แย่กว่าของ วินนี่ ทุกคนสามารถเห็นได้"
ขณะ ที่ เจอร์ราร์ด ได้พูดถึงการแสดงความเห็นของ มันชินี่ ที่กล่าวหาว่า เวย์น รูนี่ย์ กองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด กดดันผู้ตัดสินให้แจกใบแดงกับ ก็องปานี ว่า "มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับผม เนื่องจากเขามุ่งประเด็นไปยัง เวย์น รูนี่ย์ แต่ตอนนี้เขามุ่งประเด็นมายังหนึ่งในพวกเรา"
ส่วน มันชินี่ โต้กลับห้องเครื่องวัย 31 ปี จากประเด็นที่พูดเกี่ยวกับตนทันควันว่า "สตีเว่น เจอร์ราร์ด สามารถพูดได้ตามที่เขาต้องการ ผมก็พูดในสิ่งที่ผมคิด นั่นคือสิ่งที่ผมทำเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งมันไม่ได้มีสาระสำคัญเลยว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือนักเตะคนอื่นพูดว่าอย่างไร"
เมื่อ ถูกถามถึง สเตฟาน ซาวิช กองหลังทีมชาติมอนเตเนโกร ที่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแทน ก็องปานี แล้วทำพลาดเสียจุดโทษเป็นเหตุให้ทีมต้องพ่ายไปในท้ายที่สุด มันชินี่ กล่าวว่า "ซาวิช จำเป็นต้องได้รับประสบการณ์ มันเป็นเรื่องปกติ เขายังหนุ่ม เมื่อต้องมาพบกับกองหน้าอย่าง แคร์โรลล์ เขาคงต้องพบความยากลำบากอยู่บ้าง ทว่าในครึ่งหลังมันก็เริ่มดีขึ้น"
ทั้งนี้จากความ ปราชัยต้องถือเป็นครั้งแรกที่ ซิตี้ พ่ายในบ้านติดต่อกัน 2 นัดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2008 ซึ่ง มันชินี่ ทราบดีทีมของตนต้องประสบปัญหา เพราะทีมต้องขาดนักเตะหลักหลายรายในช่วงเวลานี้ โดยระบุว่า "เราก็แค่ต้องพบกับ 2 เกมที่ยากลำบาก ผมรู้เรื่องนี้มาก่อน เมื่อผมพูดว่าเดือนมกราคมจะต้องเป็นเดือนที่สำคัญสำหรับเรา เนื่องจากเราต้องเสียนักเตะคนสำคัญไป 3 หรือ 4 ราย"
ลือ!กัลเลียนี่บินด่วนถกซิตี้เรื่องคว้าเตเวซ
อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ รองประธานสโมสร "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตกเป็นข่าวว่าเตรียมจะเดินทางไปยังประเทศอังกฤษเพื่อเปิดฉากเจรจากับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับเรื่องการดึงตัว คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดเดือนมกราคม ในวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคมนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา กัลเลียนี่ ออกมาระบุว่า มิลาน สามารถบรรลุข้อตกลงกับ เตเวซ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่าพวกเขายังไม่ได้รับการตอบสนองจาก แมนฯ ซิตี้ ว่าจะยินยอมให้ยืมตัวดาวยิงวัย 27 ปี ไปก่อน พร้อมเงื่อนไขในการซื้อตัวร่วมทีมถาวรเมื่อจบฤดูกาลนี้หรือไม่
ทั้ง นี้เป็นที่ทราบกันดีว่า มิลาน ต้องการหาขุมกำลังในแนวรุกเข้ามาเพิ่ม เนื่องจากต้องการนำเข้ามาทดแทน อันโตนิโอ คาสซาโน่ กองหน้าชาวอิตาเลียน ที่อยู่ในระหว่างการพักฟื้น หลังเข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะกลับมาลงสนามได้ในเร็ววันนี้ค่อนข้างแน่
แชร์วินโญ่ยกอาร์วีพีคือผู้นำตัวจริงของปืน
แชร์วินโญ่ กองหน้าทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ของ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่ารู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างยิ่งกับการได้เล่นในแดนหน้าร่วมกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกกัปตันทีม และมีความต้องการให้ดาวยิงดัตช์อยู่ทำผลงานให้กับ "เดอะ กันเนอร์ส" ต่อไป
แชร์ วินโญ่ วัย 24 ปี พูดถึง ฟาน เพอร์ซี่ ที่เหลือสัญญาในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกเพียงแค่ 18 เดือนเท่านั้น ว่า "ผมไม่ต้องการเห็นการขาย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เกิดขึ้น โรบิน เป็นนักเตะที่มีส่วนช่วยกดดันเพื่อนร่วมทีมรายอื่นให้ทำงานหนักและมีความ มุ่งมั่นมากขึ้นในระหว่างเกม การได้เล่นร่วมกับเขาเหมือนเป็นความฝันเลยทีเดียว ฟาน เพอร์ซี่ คือกัปตันและหัวหน้าของเราทุกคน"
สื่อเบียร์ลือเสือใต้เล็งเบิร์บ-ชากิรี่
"สปอร์ต บิลด์" ลือหึ่ง บาเยิร์น มิวนิค วางแผนเสริมทัพซัมเมอร์หน้า ด้วยการเล็งสอย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ มาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งยังเมียงมอง เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกจอมลุยชาวเมืองนาฬิกา ของ บาเซิ่ล อีกคน
"สปอร์ต บิลด์" สื่อเมืองเบียร์ รายงานข่าวว่า "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ลีกเมืองเบียร์ เตรียมเสริมทัพช่วงซัมเมอร์หน้าแล้ว โดยหวังเสริมเกมรุกเต็มพิกัดด้วยการออกล่าตัว ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงตัวสำรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อแบ่งเบาภาระของ มาริโอ โกเมซ ทั้งยังมองไปที่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกตัวจี๊ดชาวสวิตเซอร์แลนด์ ของ เอฟซี บาเซิ่ล เพื่อมาช่วยงาน อาร์เยน ร็อบเบน และ ฟร้องค์ ริเบรี่
หลัง มีข่าวสนใจ เบเนดิกต์ โฮเวเดส กองหลังจอมแกร่งของ ชาลเก้ 04 ล่าสุดลือว่า จุ๊ปป์ ไฮย์เกส โค้ชทีมเสือใต้ อยากได้กองหน้ามารองรับการย้ายออกไปของ อิวิก้า โอลิช ที่คาดว่าจะเก็บของออกไปแบบฟรีๆ ตอนจบซีซั่น และเป็น เบอร์บาตอฟ ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นเป้าหมาย แต่อาจจะยาก เพราะแม้ "เบิร์บ" จะกำลังหมดสัญญาซีซั่นนี้ แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกแล้วว่า จะใช้ออปชั่นขยายสัญญาไปอีก 1 ปี
ส่วนกรณีของ ชากิรี่ นั้น คาดว่า ไฮย์เกส อยากได้เขามาเป็นอะหลั่ยของ ร็อบเบน และ ริเบรี่ โดย ปีกวัย 20 ปี มีสัญญากับ บาเซิ่ล ถึงปี 2014 แต่น่าจะย้ายทีมได้ถ้าหาก บาเยิร์น ยินดีเสนอค่าตัว 15 ล้านยูโร (ราว 645 ล้านบาท) โดยมีทีมอย่าง ลีลล์, ปอร์โต้, ดินาโม เคียฟ, บาร์เซโลน่า, ลิเวอร์พูล รวมถึง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่มีข่าวสนใจเช่นกัน
"สปอร์ต บิลด์" สื่อเมืองเบียร์ รายงานข่าวว่า "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ลีกเมืองเบียร์ เตรียมเสริมทัพช่วงซัมเมอร์หน้าแล้ว โดยหวังเสริมเกมรุกเต็มพิกัดด้วยการออกล่าตัว ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงตัวสำรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อแบ่งเบาภาระของ มาริโอ โกเมซ ทั้งยังมองไปที่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกตัวจี๊ดชาวสวิตเซอร์แลนด์ ของ เอฟซี บาเซิ่ล เพื่อมาช่วยงาน อาร์เยน ร็อบเบน และ ฟร้องค์ ริเบรี่
หลัง มีข่าวสนใจ เบเนดิกต์ โฮเวเดส กองหลังจอมแกร่งของ ชาลเก้ 04 ล่าสุดลือว่า จุ๊ปป์ ไฮย์เกส โค้ชทีมเสือใต้ อยากได้กองหน้ามารองรับการย้ายออกไปของ อิวิก้า โอลิช ที่คาดว่าจะเก็บของออกไปแบบฟรีๆ ตอนจบซีซั่น และเป็น เบอร์บาตอฟ ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นเป้าหมาย แต่อาจจะยาก เพราะแม้ "เบิร์บ" จะกำลังหมดสัญญาซีซั่นนี้ แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกแล้วว่า จะใช้ออปชั่นขยายสัญญาไปอีก 1 ปี
ส่วนกรณีของ ชากิรี่ นั้น คาดว่า ไฮย์เกส อยากได้เขามาเป็นอะหลั่ยของ ร็อบเบน และ ริเบรี่ โดย ปีกวัย 20 ปี มีสัญญากับ บาเซิ่ล ถึงปี 2014 แต่น่าจะย้ายทีมได้ถ้าหาก บาเยิร์น ยินดีเสนอค่าตัว 15 ล้านยูโร (ราว 645 ล้านบาท) โดยมีทีมอย่าง ลีลล์, ปอร์โต้, ดินาโม เคียฟ, บาร์เซโลน่า, ลิเวอร์พูล รวมถึง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่มีข่าวสนใจเช่นกัน
ดัลกลิชเน้นหงส์ยังมีงานหนักรออยู่
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ออกมายอมรับว่านักเตะของเขายังมีงานต้องทำอีกมากเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ หลังจากโชว์ฟอร์มสวยงามบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยักษ์ใหญ่ร่วมศึกพรีเมียร์ลีก 1-0 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา
ประตูจากจุดโทษของสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม "หงส์แดง" นาทีที่ 13 ส่งผลให้ทีมดังจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ กุมความได้เปรียบในการกลับไปเตะนัด 2 ที่แอนฟิลด์ วันพุธที่ 25 มกราคมนี้ อย่างไรก็ตามกุนซือชาวสกอตต์ เชื่อว่าทีมยังคงต้องเจองานหนักในเส้นทางสู่เวมบลีย์
"หากคุณมาที่นี่แล้วชนะ 1-0 คุณก็จะไม่มีทางไม่มีความสุขหรอก จริงไหม? มันเป็นฟอร์มการเล่นสุดวิเศษจากนักเตะ กับทีมที่ดีมากๆ เราต้องมีความสุข แต่เราจะไม่ทึกทักอะไรไปก่อนไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือฟอร์มการเล่นว่างานนั้น จบลงแล้ว"
"เราอาจได้เปรียบเล็กน้อยจากประตูนี้ แต่มันไม่ได้หมายความที่จะบอกว่า ไม่มีใครกระโดดออกมาจากห่วงได้หรอกนะ เราจะต้องเป็นมืออาชีพให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ในเกมนัด 2"
ช่วงครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ตั้งหน้าเล่นเกมรับอย่างเต็มที่ โดยดัลกลิช ยอมรับว่า เขามีความสุขที่ไม่เสียประตูในบ้านของ "เรือใบสีฟ้า" โดยกล่าวว่า "มันเป็นฟอร์มการเล่นที่แตกต่างกันระหว่าง 2 ครึ่ง ในครึ่งแรก เราดูจะสร้างความดุดันได้มากกว่าในครึ่งหลัง แต่ในครึ่งหลังนั้นจากประตูที่ได้เปรียบ เราแค่รับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อผ่านไปให้ได้"
"เราไม่เสียประตูในเกมนี้ มีไม่กี่ทีมหรอกที่มาที่นี่แล้วออกไปโดยไม่เสียประตูให้พวกเขา มันเป็นความพยายามที่เยี่ยมยอดของนักเตะในครึ่งหลัง มันอาจไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่สวยงามมากที่สุด แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความต้องการ, ความรับผิดชอบ หรือแรงปรารถนาที่ลดน้อยเลย"
ในเกมนี้เจย์ สเพียริ่ง มิดฟิลด์ดาวรุ่ง มีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในครึ่งแรก แต่กุนซือวัย 60 ปี หวังว่า จะเป็นอาการบาดเจ็บที่ไม่เลวร้ายนัก "มันเป็นเอ็นหลังหัวเข่าของเขา แต่มันไม่หนักเท่าไหร่ มันเป็นแค่อาการยึดเท่านั้น ผมไม่คิดว่าเขาจะมีอาการตึงอะไร แต่เราจะต้องรอดูต่อไปจนถึงตอนเช้า"
มันโช่มั่นใจเรือเจ๋งพอบุกดับหงส์ทะลุชิงดำ
โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเกาะอังกฤษ ออกมายืนยันหนักแน่นว่าทีมของเขาจะกลับมาได้อีกครั้งอย่างแน่นอนในนัดที่ 2 หลังจากพลาดท่าพ่ายลิเวอร์พูล คาถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม 1-0 ในศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา
เพียง ไม่กี่วันหลังจากโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเชือด 3-2 ตกรอบเอฟเอ คัพ รอบ 3 ในบ้านของตัวเอง ลูกทีมของมันชินี่ ต้องประสบความปราชัยอีกครั้งจากจุดโทษของสตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางตัวเก่ง "หงส์แดง" ในนาทีที่ 13 ของเกม
อดีตนายใหญ่อินเตอร์ มิลาน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสกาย สปอร์ตส์ ว่า "ผมคิดว่าเราเล่นได้ดีกว่าในครึ่งหลัง เราเล่นได้แย่ใน 45 นาทีแรก ท้ายที่สุดแล้วเราก็ไม่สมควรแพ้ แต่เราโชคไม่ดีเท่านั้น ในช่วงเวลานี้มันยากลำบาก แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรักษาความมั่นใจเอาไว้ นี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราต้องทำงานและเชื่อมั่นในตัวเองต่อไป"
"เราไม่มีนักเตะ 3-4 คน แต่ในครึ่งหลังเราก็เล่นได้ดี เราทำได้ดีจนถึงช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ตอนนี้เราแพ้ 2 เกมสำคัญ เราสามารถชนะในเกมเยือนลิเวอร์พูล ได้ มันจะเป็นเกมที่ยาก แต่เราจะพยายาม มันเป็นเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น"
ใน เกมนี้มันชินี่ ตัดสินใจถอด มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกอารมณ์ร้อนออกจากสนามก่อนส่ง ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์เลือดน้ำหอม ลงไปทำเกมแทน และ "ซูเปอร์มาริโอ" เดินตรงเข้าไปในห้องแต่ตัวทันที อย่างไรก็ตามกุนซือชาวอิตาเลี่ยน ยืนยันว่าต้องเปลี่ยนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บ "ไม่หรอกนะ ผมไม่คิดว่ามันหนักหนาอะไร แต่เขาไม่สามารถเล่นได้ เขามีปัญหาที่บริเวณข้อเท้า"
ช่วงท้ายเกมเกล็น จอห์นสัน ฟูลแบ็ก "หงส์แดง" พุ่งเข้าเสียบ 2 เท้าใส่โจลีออน เลสค็อตต์ ปราการหลังซิตี้ในลักษณะเดียวกับที่แว็งซองต์ ก็องปานี ดาวเตะเบลเยียม โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 โดยมันชินี่ กล่าวถึงจังหวะนี้ผ่านสำนักข่าวบีบีซี ว่า "ผมอยากเห็นการเข้าเสียบของจอห์นสัน อีกครั้ง ผมคิดว่ามันเลวร้ายมากๆ"
กระ นั้นเจอร์ราร์ด แสดงความประหลาดใจกับความเห็นของนายใหญ่จากแดนมะกะโรนี พร้อมยกตัวอย่างว่า มันชินี่ เคยพยายามวิจารณ์ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษของ "ปีศาจแดง" ที่พยายามกดดันกรรมการให้ไล่ก็องปานี ออกจากสนามในเกมก่อน "มันทำให้ผมประหลาดใจ เพราะเขาเคยพยายามทำกับเวย์น รูนี่ย์ ตอนนี้ เขาพยายามทำกับหนึ่งในนักเตะของเรา"
มันโช่รับ30ปีไม่เคยเห็นใบแดงแบบกอมปานี
โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับยังงงไม่หายว่า แว็งซ็องต์ กอมปานี เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม โดนใบแดงได้ยังไงกับจังหวะการเข้าเสียบ หลุยส์ นานี่ ปีกจอมพลิ้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ตลอด 30 ปีที่อยู่ในวงการลูกหนังไม่เคยเห็นการถูกไล่ออกจากการสกัดแบบนี้เลย
จังหวะ ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง 10 นาทีแรกเมื่อ กอมปานี พุ่งเสียบ 2 เท้าใส่ ปีกทีมชาติโปรตุเกส ในเกมที่ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-3 ตกรอบ 3 ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย แมนฯ ซิตี้ ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ใบแดงไปแล้ว และก็โดน สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ปฏิเสธไปเรียบร้อย ส่งผลให้นักเตะถูกลงโทษแบน 4 เกมทันที
"มัน โช่" เปิดใจว่า "ผมเคยเห็นนักเตะ 3-4 คนในพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเข้าเสียบน่าเกลียดกว่า วินนี่ (แว็งซ็องต์ กอมปานี) และกับผู้ตัดสินคนเดียวกัน เขาไม่ได้ให้อะไรเลย แม้แต่ใบเหลืองก็ไม่มี ในรอบ 30 ปีผมไม่เคยเห็นการไล่ออกด้วยการเสียบแบบนี้ ผมไม่เข้าใจจริงๆ วินนี่ ได้บอล เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย"
"ถ้า มีอันตราย นานี่ ซึ่งอยู่ใกล้กับบอลที่สุด บางทีเขาอาจจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่อนี้ โดยเฉพาะกับผู้ตัดสิน แต่เขาไม่พูดอะไรเลย มันก็แปลกดีเพราะในอังกฤษ กรรมการมักตัดสินแบบเหลือเชื่อ บางครั้งพวกเขาก็ไล่ออกทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเลย เรื่องนี้มันน่าแปลก ผมไม่เข้าใจจริงๆ"
นอก จากนี้ มันชินี่ ได้กล้าวปกป้องพฤติกรรมของตนเองที่พยายามกดดันผู้ตัดสินใจแจกใบแดง มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังลิเวอร์พูล กรณีทำฟาวล์ ยาย่า ตูเร่ ในเกมลีกที่ แมนฯ ซิตี้ ชนะ "หงส์แดง" รวมทั้งการวิจารณ์ เวย์น รูนี่ย์ ว่าเป็นตัวการสำคัญที่เป่าหูผู้ตัดสิน คริส ฟอย ก่อนที่เขาจะไล่ กอมปานี ออก
"ใช่ ผมทำแบบนั้น ทุกๆ คนพูดว่า -ขอโทษ ขอโทษ- เพราะในอังกฤษเราไม่ทำแบบนี้ ดังนั้นผมขอโทษก็ได้ แต่นี่เป็นเรื่องปกติเพราะ 5 นาทีก่อน มีการแจกใบแดงให้ แกเร็ธ แบร์รี่ ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเลย ในอิตาลี มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำแบบนี้ เราแตกต่างกัน" อดีตโค้ช อินเตอร์ มิลาน สรุป
บาโลหยอดคำหวาน!มันโช่เก่งกว่าเฮียมู
มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกทีมชาติอิตาลีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงแห่งศึก พรีเมียร์ลีก ยกย่องให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน ของ "เรือใบสีฟ้า" เก่งกว่า โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ช เรอัล มาดริด มหาอำนาจลูกหนังแห่งสังเวียน ลา ลีกา ในเรื่องการผลักดันศักยภาพของนักเตะ แถมยังสนิทกับตนสุดๆ อีกด้วย
แม้ ดาวยิงวัย 21 ปี เคยทำงานร่วมกับ เทรนเนอร์ ทั้ง 2 คน ตอนค้าแข้งอยู่กับ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน" แต่ เมื่อถูกถามว่า คนไหนมีความเหนือกว่า ในเรื่องการดึงความสามารถของนักเตะ เจ้าตัวเลือกกุนซือเพื่อนร่วมชาติ เป็นอันดับแรก "ส่วนตัวแล้ว ผมคงต้องบอกว่า มันชินี่ มาเป็นที่ 1 แล้วจึงเป็น มูรินโญ่ นะ โค้ช ต้องรีดฟอร์มของนักเตะออกมาให้ได้ 100 เปอร์เซนต์ และ มันชินี่ เก่งในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ความสัมพันธ์ของเราก็ยังดีมากๆ ด้วย "
ศูนย์หน้าเจ้าของ ฉายา "ซูเปอร์ มาริโอ" ยังถือโอกาสสยบกระแสข่าวย้ายกลับลีกบ้านเกิดด้วยว่าเป็นเพียง เรื่องที่สื่อลือกันไป เพราะปัจจุบันตนคือนักเตะในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม "พวกเขาก็สามารถพูดกันไปได้ตามที่ต้องการ แต่ผมยังอยู่ในเมือง แมนเชสเตอร์"
เอเยนต์ยันผีเล็งกระชากบาเสริมทัพจริง
เดมบ้า บา หัวหอก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวว่า ได้รับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิงไปแล้วถึง 15 ประตู ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011-12 นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า เชลซี, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็กำลังจับตาดูสถานการณ์ของศูนย์หน้าชาวเซเนกัล ซึ่งมีเงื่อนไขการฉีกสัญญาค้าแข้งกับ "สาลิกาดง" ด้วยข้อเสนอที่น้อยกว่า 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท) อยู่ด้วยเช่นกัน
ขณะ ที่ อาร์กม็องด์ ดูร์น หนึ่งในทีมงานเอเยนต์ของดาวเตะวัย 26 ปี กล่าวว่า "มีหลายสโมสรที่กำลังติดต่อมายัง บา ณ ขณะนี้ เรากำลังดำเนินการ (เจรจาเรื่องการซื้อขาย) กับพี่ชายของเขา ก่อนหน้านี้เราดำเนินการเรื่องนี้โดยลำพัง แต่ตอนนี้เรากำลังทำงานร่วมกับพี่ชายของเขาอยู่ มันเป็นความจริงสำหรับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันเป็นความจริง แต่ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ ไม่มีผู้จัดการทีมคนใดที่ติดต่อมาหาผมและพูดว่า อาร์กม็องด์ เราจะมานั่งคุยกันได้หรือไม่ และทุกๆ คนก็กำลังถามถึงมูลค่าในการฉีกสัญญา แต่มันก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ"
"มันมีเงื่อนไขอยู่จริง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นิวคาสเซิ่ล รู้ดีเมื่อครั้งที่พวกเขาเซ็นสัญญากับ บา ว่านั่นคือสัญญาฉบับสุดท้ายของเขา เปแอสเช ก็แสดงความสนใจ และอาจจะให้ความสนใจมากกว่าด้วย แต่นี่เป็นเพราะผมรู้ว่ามีบุคคลหน้าใหม่มากมายเข้ามานั่งอยู่ในบอร์ดบริหาร ของที่นั่นและหลายๆ คนรู้จัก เดมบ้า อยู่แล้วตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าสำหรับพวกเขาในการพูดคุยกับพี่ชายหรือครอบ ครัวของนักเตะ และแน่นอนว่ามันมีความเป็นไปได้ แต่ผมขอย้ำอีกครั้งว่ายังไม่มีข้อสรุปใดๆ เกิดขึ้น เรายังไม่ได้บรรลุข้อตกลงกับใครทั้งนั้น" ตัวแทนของอดีตแข้ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กล่าวในที่สุด
ชิชายันไม่กังวลฟอร์มตัวเองแม้อยู่ในช่วงเท้าฝืด
ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่า ไม่รู้สึกกังวลกับฟอร์มการเล่นของตัวเองที่ไม่สามารถยิงประตูให้กับต้น สังกัดมา 5 นัดติดต่อกัน หลังจากซัดไปถึง 20 ประตูในทุกรายการ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันว่าจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาฝีเท้าเพื่อกลับมาระเบิดฟอร์มยิง ประตูให้ได้
ดาวเตะวัย 23 ปี เผยผ่านเว็บไซต์สโมสรว่า "มันมีสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างไปเพราะในฤดูกาลนี้ผมประสบกับอาการบาดเจ็บบ่อย ขึ้นกว่าปีก่อน แต่ผมยังคงมีความสุขอยู่ แต่ละปีมันก็มักจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเสมอ ในฤดูกาลแรก ไม่เพียงเพราะผู้เล่นกองหลัง รวมทั้งบรรดาโค้ชก็ไม่ค่อยรู้จักผม"
"แต่ ตอนนี้ และในฤดูกาลที่ 3 และ 4 พวกเขาก็จะรู้จักผมมากขึ้น แต่นักเตะที่ดีอย่าง เวย์น (รูนี่ย์), (โรบิน) ฟาน เพอร์ซี่ รวมถึง (ดิดิเย่ร์) ดร็อกบา อยู่ที่นี่มาเป็นเวลา 5-6 ปี หรือมากกว่านั้น และยังคงเล่นอยู่ในระดับสูงสุดได้อยู่ ดังนั้นผมจึงต้องทำงานต่อไปเพื่อทำให้ได้แบบนั้น" ศูนย์หน้าชาวเม็กซิกัน กล่าวในที่สุด
คาร์ริคเลิกฝันรีเทิร์นทีมชาติหันทุ่มเทเพื่อผี
ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางตัวเก๋าของทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ปลงตก เลิกคิดเลิกหวังแล้วว่าจะมีชื่อติดธง "สิงโตคำราม" อังกฤษ ไปเล่นฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" ที่ โปแลนด์-ยูเครน ซัมเมอร์หน้า หลังหลุดจากทีม และไม่ได้ลงเล่นในนามทีมชาติมาตั้งแต่เกมอุ่นเครื่องกับ เม็กซิโก ที่ เวมบลีย์ เดือนพฤษภาคม 2010 รวมลงเล่นให้บ้านเกิดแค่ 22 นัดเท่านั้น
ถึง แม้จะเป็นขุนพลตัวหลักของทีม "ปีศาจแดง" นับตั้งแต่ย้ายมาจาก สเปอร์ส และมีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์มากมาย แต่ คาร์ริค ก็ยังเป็นแค่ตัวสำรอง เพราะมิดฟิลด์คู่กลางยังไงก็เป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำให้จนกระทั่งตอนนี้ คาร์ริค เพิ่งเล่นทีมชาติไป 22 เกม และส่อแววไม่มีชื่อไปเล่นฟุตบอลยูโร 2012 เนื่องจาก ฟาบิโอ คาเปลโล่ ก็หันมาใช้ดาวรุ่งหลายๆ คนในทีมชาติ
กองกลางวัย 30 ปี ที่เล่นทีมชาตินัดแรกตั้งแต่ปี 2001 บอกว่า แทนที่จะหวังลมๆ แล้งๆ สู้เอาเวลามาทุ่มเทเพื่อสโมสรดีกว่าเยอะ "พูดกันตามตรงนะ มันไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดถึงเลย ผมสนใจแค่การเล่นที่นี่ให้ดีเท่านั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ผมหลุดจากทีมในระยะหลังๆ ผมเลยหันมาเน้นทำหน้าที่ที่นี่ให้ดีดีกว่า ในฐานะนักเตะผมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร บางทีคุณอาจแก่ขึ้น แต่คุณก็มีประสบการณ์มากขึ้น นั่นนำมาซึ่งหน้าที่รับผิดชอบที่มากขึ้น"
"คูณ ดูไม่เหมือนเดิม และมันก็โอเค ผมไม่มีปัญหา ผมเล่นของผมแบบนี้มาตลอด (คุมเกม) ผมไม่ขอเปลี่ยนตัวเองเพียงเพราะสถานการณ์เปลี่ยนหรอก คุณต้องทำในสิ่งที่คุณคิดว่าตัวเองทำได้ดี และพัฒนามันให้ดีขึ้นไป ผมมีความสุขกับหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองตอนนี้ พอคุณแก่ขึ้นบางทีพวกนักเตะดาวรุ่งก็อาจจะมองคุณในสายตาที่แตกต่างไป ซึ่งผมมีความสุขกับมันแล้ว"
แฮร์รี่ชูไก่ฟอร์มเด็ดซิวทอฟฟี่ทำแต้มทาบผี
แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ผู้จัดการทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ออกมาให้สัมภาษณ์ชื่นชมลูกทีมที่ทำผลงานได้อย่างสุดแกร่งในเกมที่เปิดสนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน คว้าชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา
สเปอร์ส ได้ประตูจาก อารอน เลนน่อน ปีกจรวดทางเรียบ ในนาทีที่ 35 และ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ แบ็กซ้ายทีมชาติแคเมอรูน ในนาทีที่ 63 ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน เท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงในเวลานี้ และตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงเพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น
เร้ด แน็ปป์ กล่าวหลังจบเกมว่า "เราขึ้นไปอยู่บนหัวตารางแล้ว และอยู่ในพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก เราก็เริ่มมองที่มันแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้และคุณจะต้องเชื่อมั่นต่อไป นอกจากนั้นผมสนุกกับการได้ดูเราเล่น ถ้าคุณไม่สนุกล่ะก็ คุณก็ไม่ควรดูฟุตบอลแล้วล่ะ"
"มันเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยม ของเรา มันเป็นเรื่องยากเสมอในการเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน คุณไม่เจอกับเกมง่ายในการเล่นกับพวกเขา เดวิด มอยส์ เน้นเกมรุกในคืนที่ผ่านมา และพวกเขาเริ่มเกมได้อย่างยอดเยี่ยมแต่เราก็ได้ประตูขึ้นนำและเล่นได้ดีเช่น กัน มันเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเลย"
พร้อมกันนี้ กุนซือวัย 64 ปี ยอมรับว่าประตูขึ้นนำจาก เลนน่อน เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทัพ "ไก่เดือยทอง" ในเกมที่ผ่านมา "มันเป็นประตูสำคัญเพราะว่าพวกเขามักจะเล่นได้อย่างอันตรายในช่วงครึ่งหลัง เราต้องการประตูและทันทีที่เราทำได้ เราก็ครองเกมได้เลยด้วยการผ่านบอลอย่างยอดเยี่ยมรวมถึงการแสดงให้เห็นถึง ฟุตบอลที่มหัศจรรย์อีกด้วย มันไม่มีเกมที่ง่ายเลย ทุกทีมต่างแข็งแกร่งทั้งนั้น แต่เราก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม"
ใน เกมที่ผ่านมา เจค ลิเวอร์มอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งได้รับโอกาสลงสนามแทนที่สกอตต์ พาร์เกอร์ ห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับคำชมจาก เร้ดแน็ปป์ "เจค เล่นได้อย่างมหัศจรรย์ในคืนนี้ เขายอดเยี่ยมจริงๆ เมื่อดูจากการที่เป็นดาวรุ่งที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากทีมเยาวชน ตอนผมเข้ามาหลายคนต่างบอกว่าเขาคงจะแจ้งเกิดไม่ได้ แต่เขาดีพอที่จะเล่นให้กับทุกทีม เขาเคยถูกยืมตัวไปแล้ว และก็พัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ"
ฟิลยกเบลปีกเก่งที่สุดทั้งในลีกผู้ดีและยุโรป
ฟิล เนวิลล์ ฟูลแบ็กมากประสบการณ์ของ เอฟเวอร์ตัน สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวยกย่อง แกเร็ธ เบล ดาวเตะทีมชาติเวลส์ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ว่าเป็นปีกที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ในลีกเมืองผู้ดีเท่านั้น แต่ยังแจ๋วที่สุดในยุโรปด้วย
ดาวเตะสารพัดประโยชน์วัย 34 ปี กล่าวว่า "แกเร็ธ เติบโตขึ้นกับการเล่นตำแหน่งปีกซ้าย บางทีเขาเก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกหรือไม่ก็ในยุโรปเลยก็ว่าได้ เราจำเป็นต้องทำผลงานให้ดีที่สุดในการหยุดเขา ผมมองว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีกว่าเมื่อซีซั่นที่แล้ว เขาพัฒนาหลายๆ สิ่งกับสไตล์การเล่นของเขาในทุกๆ ปี"
"ตอนที่ผมหนุ่มๆ แต่ละปีผมจะบอกว่า -คุณต้องเพิ่มสิ่งใหม่ๆ เข้าไปในการเล่นของคุณ คุณต้องพยายามพัฒนาขึ้น 5-10 เปอร์เซ็นต์- ตอนนี้ผมได้เห็นเขาทำอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งเขาไม่เคยทำเมื่อ 12 เดือนก่อน หลายๆ ทีมพยายามที่จะหยุดเขาทางกราบ แต่เขาก็หันมาเล่นตรงกลาง เขายิงประตูได้มากมาย และนั่นเป็นสิ่งที่เขาพัฒนาขึ้น"
ขณะ เดียวกัน อดีตเด็กปั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า สเปอร์ส มีคุณภาพมากพอที่จะขึ้นไปติด 2 อันดับแรกบนตารางลีก "ผมคิดว่า สเปอร์ส คู่แข่งที่แข็งแกร่งมาก ฟอร์มอันโดดเด่นใน 2 เกมได้แก่กับ (แมนเชสเตอร์) ซิตี้ และ ยูไนเต็ด แต่ผลการแข่งขันน่าประทับใจสำหรับผมมากโดยเฉพาะเกมที่ ท็อตแน่ม ชนะ เวสต์บรอมฯ 1-0 นั่นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อคว้าแชมป์ลีกให้ได้" เนวิลล์ ผู้น้อง ระบุ
สเคอร์เทลแฮปปี้ได้พิสูจน์ตัวเองกับหงส์
มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาเผยเมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า เขามีความสุขที่ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง หลังจากที่เริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ อย่างยากลำบาก
สเคอร์เท ล ย้ายจาก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สโมสรแห่งลีกรัสเซีย มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคม 2008 และทำผลงานน่าผิดหวังในนัดประเดิมสนามในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 กับ ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ โดยเขาเล่นอย่างผิดพลาดและทำเข้าประตูตัวเองในเกมที่จบลงด้วยชัยชนะของ "หงส์แดง" 5-2
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแข้งทีมชาติสโลวาเกีย ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าคู่ควรกับค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 325 ล้านบาท) ด้วยการจับคู่กับ ดาเนียล แอ็กเกอร์ ทำผลงานในเกมรับได้อย่างสุดแข็งแกร่ง และเบียด เจมี่ คาร์ราเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก๋า ตกไปเป็นตัวสำรอง
สเคอร์เทล กล่าวถึงเกมกับ ฮาแวนต์ ว่า "ผมกลับไปที่โรงแรมและผมรู้ว่ามันไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของผมหรือฟอร์มที่ดี ที่สุดของผม ผมรู้ว่าผู้คนพูดถึงผมว่าผมไม่ดีพอสำหรับ ลิเวอร์พูล ซึ่งจ่ายเงินมากมายเพื่อผม ผมแค่ต้องการแสดงให้เห็นว่าผมเป็นนักเตะที่ดีกว่าที่ผมแสดงออกมาในเกมกับ ฮาแวนต์ แน่นอน ผมสามารถเห็นได้ว่าผู้คนมองผมต่างไปจากเดิมในตอนนี้ และผมมีความสุขกับมัน"
นอกจากนี้ สเคอร์เทล ยังมั่นใจว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกคาร์ลิ่ง คัพ ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะหลังจากคู่แข่งต้องเสีย ยาย่า ตูเร่ และ แวงซ็องต์ ก็องปานี 2 นักเตะตัวสำคัญไป
"ตูเร่ และ ก็องปานี เป็นนักเตะตัวหลักของพวกเขา แต่พวกเขาจะยังคงแข็งแกร่ง แต่เราสามารถเอาชนะพวกเขาได้ เราทำผิดพลาด 3 ครั้งและเสีย 3 ประตูเมื่อสัปดาห์ก่อน" กองหลังตัวแกร่ง กล่าว
สาลิกาแปะราคาจอมหนึบครูล15ล.
"สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวว่าตั้งราคา ทิม ครูล นายทวารของทีม เอาไว้ที่ 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 750 ล้านบาท) เพื่อกันท่า "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่สนใจคว้าตัวไปร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้ จากการรายงานเมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา
ครูล ทำผลงานให้กับ นิวคาสเซิ่ล ได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ โดยเขาช่วยเซฟลูกยิงในจังหวะสำคัญๆ มากมาย จนทำให้ "สาลิกาดง" มีลุ้นทำอันดับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และจอมหนึบดัตช์ วัย 23 ปีก็ตกเป็นเป้าหมายของ สเปอร์ส และ เชลซี ในเวลานี้ ทว่าสโมสรจะไม่ยอมปล่อยตัวไปแน่นอน นอกจากจะได้รับข้อเสนอจำนวนมหาศาล
"ทิม ได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก มันคือตลาดที่พิเศษมากเมื่อคุณมองหาผู้รักษาประตูที่มีคุณภาพ คุณต้องพูดถึงราคา 15 ล้านปอนด์ บางทีอาจมากกว่านั้น นั่นคือค่าตัวของเขา" แหล่งข่าวในทีม นิวคาสเซิ่ล กล่าว
สเปอร์ส กำลังมองหาผู้รักษาประตูมือ 1 ในระยะยาว เนื่องจากตอนนี้ แบรด ฟรีเดล อายุ 40 ปีแล้ว ขณะที่ เชลซี ต้องการคนที่จะมาแย่งตัวจริงกับ ปีเตอร์ เช็ก โดยเฉพาะหลังจากที่นายทวารสาธารณรัฐเช็ก ฟอร์มตกอย่างหนักในช่วงหลัง
พีนาร์ยันไม่เสียใจที่ย้ายซบไก่
สตีเว่น พีนาร์ มิดฟิลด์ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า เขาไม่เสียใจที่ตัดสินใจย้ายจาก "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน มาร่วมถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว เนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองต้องการหาความท้าทายใหม่
ดาว เตะทีมชาติแอฟริกาใต้ รู้สึกอิ่มตัวกับ เอฟเวอร์ตัน ก่อนตัดสินใจย้ายมาร่วมทีม สเปอร์ส แต่แข้งวัย 29 ปีต้องเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควร จนมีข่าวลือออกมาว่า พีนาร์ อาจย้ายกลับถิ่นกูดิสัน พาร์ค แบบยืมตัว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเขาได้ออกมายืนยันว่าต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองกับ "ไก่เดือยทอง" ต่อไป
"เอฟเวอร์ตัน จะอยู่ในใจผมตลอดไป ที่ เอฟเวอร์ตัน เรามีผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยม แต่ทีมเล็กกว่าและบางครั้งคุณก็มาถึงจุดที่คุณไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้อีก แล้ว สำหรับผม ผมแค่ต้องการก้าวต่อไปและท้าทายตัวเอง มันเป็นเรื่องดีเสมอ เพราะคุณสามารถผลักดันตัวเอง คุณต้องทำให้แน่ใจว่าคุณไปถึงขีดจำกัดของตัวเอง"
"ผม อยากเล่นในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เพราะมันเป็นความรู้สึกพิเศษเสมอที่ได้เจอกับต้นสังกัดเก่าของคุณ เดวิด มอยส์ ให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเองในอังกฤษ และผมก็จะสำนึกถึงบุญคุณของสโมสรและแฟนบอลตลอดไป" พีนาร์ กล่าว
คิวพีอาร์ตั้งฮิวจ์สกุมบังเหียนตามคาด
"ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส สโมสรน้องใหม่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศแต่งตั้ง มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมคนดังชาวเวลส์ เข้ามากุมบังเหียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันอังคารที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเซ็นสัญญาคุมทัพเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง หลังจากสั่งปลด นีล วอร์น็อค ไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์
ฮิวจ์ส วัย 48 ปี เผยว่า "มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมกับการได้กลับมาอยู่ในวงการฟุตบอลอีกครั้ง และได้เป็นผู้จัดการทีม คิวพีอาร์ ผมตระหนักดีถึงความท้าทายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ผมตื่นเต้นกับความทะเยอทะยานของเจ้าของสโมสร เวลานี้เป้าหมายสำคัญลำดับแรกของเราคือ การอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ให้จงได้"
โทนี่ เฟอร์นานเดส เจ้าของทีมชาวมาเลเซียของ ควีนส์ปาร์ค สั่งปลด วอร์น็อค หลังผลงานย่ำแย่ ไม่ชนะเลยใน 8 เกมลีกหลังสุด มีเพียง 17 แต้ม จากการลงเล่น 20 นัด นำ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทีมในโซนตกชั้น ที่ลงเล่นเท่ากันอยู่เพียง 1 คะแนน โดยเกมสุดท้ายของ วอร์น็อค เป็นการพาทีมตามตีเสมอ มิลตัน คีนส์ ดอนส์ ทีมจากลีกระดับต่ำกว่าในช่วงท้ายเกมแบบหืดจับ 1-1 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับ ฮิวจ์ส เคยคุมสโมสร แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ฟูแล่ม ส่วนในช่วงค้าแข้งเคยเล่นให้กับทีมดังอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่า และ เชลซี มาแล้ว
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !