วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2555
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ4
สโต๊ค ซิตี้ 0 - 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
S0-1M www.fasthighlights.com by 2013fasthighlights
เปิดฉากมา 7 นาที โอกาสจบครั้งแรกเป็นของ แมนฯ ซิตี้ บอลขึ้นทางขวาถึง คาร์ลอส เตเวซ จี้ต่อเข้าไปซัดเต็มเท้าในเขตโทษ บอลพุ่งจะเข้าเสาแรกจน โธมัส โซเรนเซ่น ต้องทุบทิ้งออกไป
นาทีเดียวให้หลัง ทีมเรือใบมาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษเยื้องขวา ทว่า อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ซัดข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น
แมนฯ ซิตี้ ครองเกมเหนือกว่าตั้งแต่ต้น แต่สโต๊คก็หาจังหวะจบได้เหมือนกันในนาทีที่ 14 จากลูกเตะมุมเปิดมาเสาแรก โรเบิร์ต ฮูธ โถมเข้าโขกข้ามคานไปมีเสียว
ห้านาทีให้หลัง แมนฯ ซิตี้ น่าได้ประตูนำอย่างยิ่ง จังหวะฉวยเล่นเร็วที่มุมเขตโทษ ดาบิด ซิลบา หลุดเข้าไปส่องเน้นๆ บอลลอยกระแทกเสาไกลเต็มใบทั้งที่ โธมัส โซเรนเซ่น ได้แค่มองเท่านั้นแล้ว
ต่อมานาที 22 บอลต่อกันมาสวย 3-4 ทอด ก่อนที่จบที่ คาร์ลอส เตเวซ ยิงวืด ลูกปลิ้นลอยออกไปอย่างน่าเสียดาย
ถึงนาทีที่ 27 สโต๊ค ส่งลูกเข้าประตู แมนฯ ซิตี้ ได้จากฟรีคิกบอมบ์เข้าไป ไปตกที่ ไรอัน ชอว์ครอสส์ ซ้ำผ่าน คอสเทล พันติลิมอน เข้าไป ทว่าเป็นลูกล้ำหน้าชัดเจน
เข้าครึ่งชั่วโมง มีข่าวร้ายสำหรับแมนฯ ซิตี้ ที่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ได้รับบาดเจ็บเองจนตัดสินใจเดินออกจากสนาม และ มันชินี่ ใช้เวลาตัดสินใจนานกว่า 5 นาทีกว่าจะส่ง กาแอล กลิชี่ ลงไปแทน
ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ กลับมาบุกได้อีกครั้ง และสร้างโอกาสลุ้นได้หนสองหน ทว่ายังคงไม่เฉียบคมพอ สิ้นครึ่งแรกไปก่อนที่ 0-0
ลงไปต่อครึ่งหลัง นาที 47 เกล็นน์ วีแลน เข้าเสียบหนักใส่ ฆาบี การ์เซีย จนล้มเจ็บอีกคน ทว่าผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ไมท่ว่าอะไร และ การ์เซีย ลงมาเล่นต่อได้แบบเคืองๆ หลังจากนั้น
แมนฯ ซิตี้ ยังวูบวาบกว่าชัดเจนในการเดินเกมรุก ทว่าก็สร้างโอกาสจะแจ้งไม่ได้ จน มันโช่ ต้องเติมเกมส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงแทน โคลารอฟ ในนาทีที่ 63
คาร์ลอส เตเวซ พยายามชงเองกินเองหลายครั้งในเกมนี้ นาที 69 เป็นโอกาสซัดอีกหนจากริมเขตโทษ ทว่าลูกยังลอยหลุดออกไป
เข้ายี่สิบนาทีท้าย โทนี่ พูลิส ขอเปิดหน้าแลกบ้าง ส่งสำรอง 2 คนลงไปพร้อมกันทั้ง ปีเตอร์ เคร้าช์ กับ ดีน ไวท์เฮด หลังจากให้ คาเมรอน เจอโรม ลงไปแล้วก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี กลับเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่อาศัยความแน่นอนกว่าพังประตู 1-0 ได้สำเร็จในนาทีที่ 86 ซิลบา พาลูกขึ้นตรงกลางแล้วจ่ายออกซ้าย กุน อเกวโร่ ปาดเข้ากลางเลยมาถึง ปาโบล ซาบาเลต้า วิ่งเข้าซัดยัดเสาแรกอย่างเด็ดขาด
หลังจากนั้น แมนฯ ซิตี้ ครองลบอลไว้กับตัวรอเวลาหมด และก็ทำสำเร็จ จบเกมไปที่ ซิตี้ เบียดชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบได้อย่างใจหายใจคว่ำ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น, ไรอัน ช็อตตัน, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แอนดี้ วิลกินสัน (ดีน ไวท์เฮด น.73), ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ (คาเมรอน เจอโรม น.67), เกล็นน์ วีแลน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, โจนาธาน วอลเตอร์ส, เคนวิน โจนส์ (ปีเตอร์ เคร้าช์ น.73)
แมนฯ ซิตี้ : คอสเทล พันติลิมอน, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี (กาแอล กลิชี่ น.40), โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ (เซร์คิโอ อเกวโร่ น.62), เจมส์ มิลเนอร์, ฆาบี การ์เซีย, แกเร็ธ แบร์รี่, ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.87), เอดิน เชโก้
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !