วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2555
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซันเดอร์แลนด์ 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนซันเดอร์แลนด์ ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งพวกเขามีแต้มเท่ากับ แมนฯซิตี้ จะลุ้นลูกได้เสียที่เป็นรองเยอะอยู่ก็คงลำบาก ต้องเก็ฐสามแต้ม และลุ้นให้เรือใบสีฟ้า พลาดท่าแต้มหล่นเท่านั้น
ทีมเยือน ใช้รูนี่ย์ยืนเดี่ยวในแดนหน้า เพราะเวลเบ็คบาดเจ็บอยู่ โดยมีกิ๊กส์ลงเล่นผสานพลังกับเพื่อนซี้อย่างสโคลส์ในแดนกลาง
ช่วงต้นเกม แม้แมนฯยูฯว่าจะได้ครองบอลแบบสม่ำเสมอมากขึ้นจนเล่นเกมของตัวเองได้บ้างแล้ว แต่แนวรุกของทีมก็ยังไม่สามารถเจาะเกมรับอันเหนียวแน่นของซันเดอร์แลนด์เข้าไปได้เลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด จะมีเสียวสุดก็จังหวะของวาเลนเซียที่กระชากบอลถึงสุดเส้นหลัง ก่อนที่จะเปิดยัดเข้ากลาง แต่ติดเซฟของมินญอเล่ต์ซะก่อน
นาทีที่ 18 เป็นจังหวะลุ้นจะๆครั้งแรกของแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเล่นลูกเตะมุมโยนบอลเข้ากลาง โจนส์ชิงจังหวะเทคตัวขึ้นสูงกว่ากองหลังและเข้าหาบอลก่อนมินญอเล่ต์ได้โหม่งเต็มๆ แต่กดไม่ลง บอลเลยหลุดคานออกไปน่าลุ้นเลย
อีก 2 นาทีต่อมา ถือว่าเคลียร์ภารกิจย่อยอันแรกไปได้สำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อพวกเขาได้ประโยชน์จากความผิดพลาดของกองหลังที่ดักลูกโยนบอลของโจนส์จากด้านข้างที่ปกติไม่ค่อยจะหวังผลได้เท่าไหร่ผิดไป ทำให้บอลเลยไปถึงรูนี่ย์ที่สอดขึ้นไปเสาไกลตั้งหัวโหม่งเบียดเสาแรกเข้าไป แมนฯยูฯนำ 1-0 ลุ้นกันยาวๆแบบนี้
นาทีที่ 28 ยังน่าจะจ่ายเข้าใจน้ามากกว่านี้สักนิด ในจังหวะที่อุตส่าห์ได้บอลทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะไหลให้กับกิ๊กส์ แต่บอลมันเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ปีกขนดกเลยจำต้องเอี้ยวตัวยิงดีดด้วยเท้าซ้าย บอลเลยไม่คมพอ โดนปัดทิ้งออกมาตามระเบียบเรียบร้อย
อีก 2 นาทีต่อมา น่าเสียดายแทนรูนี่ย์อยู่เหมือนกัน เพราะในจังหวะที่เขาเรียกฟรีคิกหน้าเขตโทษให้ทีมแล้วลุกขึ้นมายิงเองนั้น เจ้าตัวอุตส่าห์ใจเย็นค่อยๆบรรจงปั่นบอลเน้นทิศทางแบบไม่ต้องแรง จนมินญอเล่ต์ขาตายไปแล้ว แต่บอลกลับเช็ดคานบนพุ่งหลุดออกหลังไปซะงั้น
นาทีที่ 34 น่าจะเป็นประตูที่สองของทั้งแมนฯยูไนเต็ดและรูนี่ย์แล้วแท้ๆในจังหวะที่วาเลนเซียควบแซงกองหลังไปเปิดบอลที่สุดเส้นหลัง ยังได้ยืนตั้งป้อมยิงพยายามเน้นเต็มที่ บอลแป้ก แต่กลายเป็นเข้าทางของรูนี่ย์ที่พยายามจะตวัดต่อ แต่จังหวะไม่ดี เลยทำให้แป้กบอลหลุดวิถีออกไปซะงั้น
นาทีที่ 43 ได้รับเสียงปรบมือเจ้าแฟนบอลทั้งสองทีมสำหรับโอเชีย เมื่อเขาจำเป็นต้องถูกเปลี่ยนออกจากสนามเพราะมีอาการบาดเจ็บ โดยซันเดอร์แลนด์ส่งเอล มูฮามาดี้ลงไปเล่นแทน
ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนก็มีโอกาสลุ้นอยู่บ้างในจังหวะที่วาเลนเซียเติมขึ้นไปแปแบบเน้นๆ ซึ่งดูแล้วเน้นเกินไป บอลเลยทั้งเบาและตรงตัวของมินญอเล่ต์ที่ยืนรับเข้าซองสบายใจ
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 2-3 นาที แมนฯยูไนเต็ดก็มีลุ้นที่จะได้ประตูที่สองอีก จากจังหวะที่ประสานงานกันได้ดีของรูนี่ย์และยัง แต่จังหวะจบสกอร์ก็ติดเซฟของมินญอเล่ต์ที่วันนี้เหนียวไม่หาย
นาทีที่ 53 ซันเดอร์แลนด์ปล่อยของเหมือนกัน เมื่อพวกเขาโหมบุกใส่แบบเต็มกำลังจนทำให้เกมของแมนฯยูไนเต็ดรวนไปหมด แถมยังมาเสียวสุดๆกับลูกล็อกแล้วยิงนอกกรอบของบาร์ดสลี่ย์ที่ยังดีที่ไปติดบล็อกกองหลังซะก่อน ไม่งั้นงานงอกเหมือนกัน
นาทีที่ 59 น่าจะได้ประตูจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของแมนฯยูไนเต็ด เมื่อวาเลนเซียฉีกแบ็คของซันเดอร์แลนด์หลุดกระจุย ก่อนที่จะตักบอลเข้าในให้ยังเติมเข้ามาแปเน้นๆ แต่ผู้เล่นของซันเดอร์แลนด์ก็ยังพุ่งเข้ามาบล็อกเอาไว้ได้ทันอีก
หลังจากได้รับข่าวดีจากอีกสนามหนึง ทำให้ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดที่เนือยไปก่อนหน้านี้กลับมาคึกกันอีกครั้งหนึง พยายามเปิดเกมรุกบุกใส่ซันเดอร์แลนด์เพื่อขอการันตี 3 คะแนนในเกมนี้ให้จงได้
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายต้องยอมรับเลยว่าสถานการณ์ของเกมตอนนี้มันตึงเครียดสุดๆ เพราะแม้ว่าแมนฯยูไนเต็ดจะคึกขึ้นมาบ้าง แต่ความกดดันภายในตัวพวกเขาน่าจะถาโถมอยู่เยอะไม่น้อย ทำให้ยังเล่นกันไม่ได้สะดวกเท่าไหร่และซันเดอร์แลนด์ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆด้วย
นาทีที่ 74 ไม่มียอมแน่นอนสำหรับซันเดอร์แลนด์ เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเอามิดฟิลด์ออก ก่อนที่จะเสริมกองหน้าอย่างวิคแฮมลงไปลุ้นประตูในแดนหน้า ต้องดูว่าพวกเขาจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นมาหรือไม่
อีก 2 นาทีต่อมา ยังไม่ได้อีกตามเคยสำหรับประตูที่สองของแมนฯยูไนเต็ด เมื่อพวกเขาได้โอกาสจากการยิงนอกกรอบเขตโทษของสโคลส์ที่ซัดบอลไปชนเสา บอลเด้งมาเข้าทางของกิ๊กส์ที่ตะบันซ้ำเต็มๆ แต่ไม่ผ่านมือของมินญอเล่ต์ที่ลุกขึ้นมาปัดทิ้งข้ามคานทัน
ตอนนี้เกมดำเนินมาจนเหลืออีกแค่ 10 นาทีสุดท้าย แน่นอนว่าแฟนบอลกำลังลุ้นกันเยี่ยวแทบเล็ด เพราะถ้าจบลงด้วยสกอร์นี้ รวมทั้งสกอร์ที่สนามเอติฮัดไม่เปลี่ยนแปลง จะทำให้แมนฯยูไนเต็ดกลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีกทันที
ช่วงเวลาที่เหลือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเล่นกันแบบระมัดระวังเพื่อให้เวลาหมดไปและลุ้นผลของแมนฯซิตี้ จบ 90 นาทีพวกเขาเอาชนะซันเดอร์แลนด์ไป 1-0 แต่นั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับการจะเป็นแชมป์สมัยที่ 20
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ซันเดอร์แลนด์ : ซิมอง มินญอเล่ต์ 8.5, ไมเคิ่ล เทิร์นเนอร์ 5, ไตตัส บรัมเบิ้ล 6, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ 6 (บริดจ์ 6 น.62), จอห์น โอเชีย 4(เอล โมฮามาดี้ 6 น.43), แจ็ค คอลแบ็ค 5, เคร็ก การ์ดเนอร์ 6, เดวิด วอห์น 5(วิคแฮม 5 น.74), เจมส์ แม็คเคลน 7, สเตฟาน เซสซิยอง 6, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ 5
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !