อาร์เซนอล เพิ่งกระเด็นตกรอบ 5 เอฟเอ คัพ หลังบุกพ่าย ซันเดอร์แลนด์ 0-2 คาถิ่น สเตเดียม ออฟ ไลท์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม้ยังอยู่บนเส้นทางรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก แต่นัดสองที่ เอมิเรตส์ สเตเดียม รับมือ เอซี มิลาน อาคันตุกะจากอิตาลีวันอังคารที่ 6 มีนาคมนี้ต้องอาศัยปาฎิหาริย์ เนื่องจากนัดแรกเสียเปรียบมาก่อนถึง 0-4
ดังนั้นความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ฤดูกาลนี้คือคว้าอันดับ 4 พรีเมียร์ชิป เวลานี้มี 43 แต้มเท่ากับ เชลซี แต่ลูกได้-เสียดีกว่า โดยทั้งสองทีมตามอันดับ 3 ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ 10 แต้ม โดยรายงานจาก "เดลี เมล" สื่อดังของอังกฤษระบุหากไม่หลุดจากนี้บอร์ดบริหารก็ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ อิวาน กาซิดิส ประธานบริหารประจำถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ไม่มีแผนติดต่อ เวนเกอร์ ที่เข้ามาคุมทัพเมื่อปี 1996 เพื่อเรียกเข้ามาคุยเกี่ยวกับอนาคต โดยปัจจุบันสัญญาเหลืออยู่ 2 ปี แต่ทว่าส่อแววไร้แชมป์ติดมือ 7 ฤดูกาลติดต่อกันเข้าให้แล้ว
ทางด้านบอร์ดบริหาร อาร์เซนอล ยังมั่นใจแนวทางการทำทีมของ เวนเกอร์ พร้อมเทงบเสริมทัพ 50 ล้านปอนด์ช่วงซัมเมอร์นี้เป้าหมายประกอบไปด้วย มาริโอ เกิทเซ แนวรุก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลูคัส โพดอลสกี กองหน้า โคโลญจน์ เอเดน ฮาซาร์ด ตัวรุก ลีลล์ และ มาเทียส ซัวเรซ กองหน้า อันเดอร์เลชท์
อย่างไรก็ตาม เกรแฮม อดีตกุนซือและนักเตะ อาร์เซนอล ที่พาทีมคว้าแชมป์รวมกัน 9 รายการมองว่าหมดเวลาของ
"ผมคิดว่า อาร์เซนอล วิกฤต เนื่องจากดูสถานการณ์ย่ำแย่กว่า 2 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะการไม่สามารถหาตัวแทนนักเตะที่ย้ายออกไป เงินก็มีแต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไม เวนเกอร์ ไม่ทำเมื่อช่วงซัมเมอร์ เหนืออื่นใดก็ต้องทำแบบ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ซื้อดาวรุ่งเข้ามาในราคาที่ค่อนข้างแพงแต่พวกเขาไม่กลัวที่จะทำ"
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !