อัน เดร วิลลาช-โบอาช ผู้จัดการทีมเชลซี สโมสรดังแห่งกรุงลอนดอน เอ่ยปากบอกแอชลี่ย์ โคล ฟูลแบ็กจอมบุก และแฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางมากประสบการณ์ ต้องไม่โกรธ และยอมรับการตัดสินใจของเขาในฐานะเจ้านาย หลังจากทั้ง 2 คนตกเป็นเพียงตัวสำรองร่วมกับ ไมเคิ่ล เอสเซียง มิดฟิลด์ทีมชาติกานา และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงสแปนิช ในเกมที่ออกไปโดน นาโปลี อัด 3-1 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่สนามซาน เปาโล เมื่อวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
กุน ซือชาวโปรตุ กีส ตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก จากการพาทีมสะกดคำว่าชนะไม่เป็นมา 5 นัดรวด นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวอีกว่า เกิดการทะเลาะเบาะแว้งภายในห้องแต่งตัว เนื่องจากบรรดานักเตะไม่เห็นด้วยกับแท็กติกที่เขาวางในสนาม นาย ใหญ่วัย 34 ปี ยืนยันว่า โคล และแลมพาร์ด ไม่มีความสุขนัก แต่เขาอยากให้ลูกทีมยอมรับการตัดสินใจของเขาให้ได้ "ผมคุยกับแอชลี่ย์ และแฟร้งค์แล้ว ด้วยการเป็นนักเตะแบบที่พวกเขาเป็น และนักเตะที่มีประสบการณ์แบบที่พวกเขามีนั้น ทำให้พวกเขาคิดว่า ตัวเองสมควรได้ช่วยทีม นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้อย่างที่สุด แน่นอนว่าพวกเขาผิดหวัง แต่นี่เป็นการตัดสินใจที่พวกเขาต้องยอมรับ และเดินหน้าต่อไป"
อดีต โค้ชเอฟซี ปอร์โต้ ยังอธิบายอีกว่า การที่แลมพาร์ด มักหายหน้าไปจากเกมสำคัญ เนื่องมาจากปัญหาด้านแท็กติก ส่วนกรณีของ โคล นั้น เป็นผลจากการที่เจ้าตัวไม่ฟิตพอเพราะเจ็บน่อง "กรณีของ แอชลี่ย์ เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากในเกมเมื่อวานนี้ ผมแน่ใจว่าตั้งแต่การฝึกซ้อมในวันพรุ่งนี้ เขาจะสู้เพื่อตำแหน่งตามที่เขาทำเป็นปกติต่อไป มันเป็นตำแหน่งของเขา ไม่มีอะไรอย่างอื่น ส่วน แลมพาร์ด กับ เอสเซียง เป็นการตัดสินใจด้านเทคนิค ท้ายที่สุดแล้ว มันคงเป็นเรื่องดีหากเราชนะเกม ไม่ว่าทำอธิบายอะไรก็ไร้ประโยชน์เมื่อมองจากผลการแข่งขัน" แทน ที่จะส่งนักเตะซึ่งเจนจัดในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก ลงสนาม "เอวีบี" กลับส่ง รามิเรส และ ราอูล เมยเรเลส คงคุมแดนกลางแทน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า "แลมพ์ส สามารถทำแบบนั้นได้ แต่มันเป็นการตัดสินใจที่พวกเราได้ทำ ไม่ใช่เป้าหมายในการทำประตู แต่เป็นอีกอย่างหนึ่ง คือการคุมแนวรุกของนาโปลีเอาไว้ นักเตะที่อยู่ในสนามทำหน้าที่ได้อย่างวิเศษ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกทางเลือกนี้ เราสามารถให้ความสำคัญกับนักเตะเหล่านี้ที่ช่วยเหลือทีม พวกเขาจะเป็นตัวเหลือเหมือนตอนอื่นๆ"
พร้อม กันนี้ วิลลาช-โบอาช ยังปฏิเสธพูดถึงข่าวลือที่มีชื่อเขาไปเชื่อมโยงกับตำแหน่งนายใหญ่อินเตอร์ มิลาน แทนที่เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือจอมเก๋า ที่ส่อแววชะตาขาดในไม่ช้า โดยระบุว่า "ผมมีความเคารพต่อการทำงานของรานิเอรี่ ซึ่งกำลังประสบกับสถานการณ์ในตำแหน่งที่อินเตอร์ เหมือนกับพวกเราอย่างที่สุด" "ผมคิดว่า เราทั้งคู่จะทำงานกับทีมปัจจุบันของเราต่อไป เชื่อมั่นในการทำงาน และพยายามนำผลการแข่งขันมาให้ได้ ตลาดข่าวลือเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอล แต่ผมอยากสร้างอนาคตของเชลซี และผมกำลังทำงานในเรื่องนี้ ผลการแข่งขันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เราต้องมองไปข้างหน้า"
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !